16 สิงหาคม 2552

Ragnarok Online กับ การต่อยอดความสำเร็จในช่วงแรก



Ragnarok Battle Offline Opening Full Version
เกม Ragnarok Battle Offline ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง โดยใช้ Character จาก Ragnarok Online


ช่วงท้ายของ Close Beta มาสู่ Open Beta หลายระบบในเกมเริ่มได้รับการเติมแต่งสีสันของเกมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็มีหลายระบบที่ผมเชื่อว่าทำให้ผู้ที่หลงมนต์เสน่ห์ของ Ragnarok Online อยู่แล้วนั้นก็ยิ่งยากที่จะถอนตัวออกมามากยิ่งขึ้นไปอีก เช่น

1. ระบบ Guild และการทำภาพ Guild ได้ด้วยตัวเอง - ไม่น่าเชื่อว่าด้วยการใช้โปรแกรมใดก็ได้ แม้กระทั่ง Paint เพื่อสร้างภาพขนาดแค่ 24 pixels * 24 pixels เป็น File แบบ BMP ท่านก็สามารถสร้างความแตกต่างให้กับกลุ่ม Guild ของท่านได้อย่างน่าสนใจ ภาพนั้นจะแสดงถึงคุณค่าของกิลด์ และเอกลักษณ์ ของคนที่อยู่ในกิลด์ได้เป็นอย่างดี เพราะภาพบางภาพแทนคำพูดได้นับพันคำ และเท่าที่ผมทราบจนถึงทุกวันนี้เกมออนไลน์ที่ไม่ใช่เกมแบบ Web-Based ทั่วไป ที่จะให้ผู้เล่นได้สร้างภาพ Avatar ของตัวเอง หรือภาพกลุ่มของตนเอง ก็มีไม่มากนักหรอกนะครับ

นอกจากนี้ เคยมีคนเล่าว่า "สิ่งใดที่เราตั้งชื่อให้มัน เราจะมีความรู้สึกผูกพันธ์กับสิ่งนั้น" แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นเพียงชื่อ Guild ในเกม หรือ Pet ก็ตาม

2. การเพิ่ม Job 2 และ Skill Point ของ Job 1 - เป็นการท้าทายให้ผู้เล่นก้าวขึ้นไปสู่ระดับที่สูงขึ้น ซึ่งจุดที่น่าสนใจอาจไม่ใช่การเปลี่ยน Class ซึ่งมีอยู่ในเกมทั่วไป แต่เป็นการที่มีช่องว่างให้เปลี่ยน Class ได้ตั้งแต่ Job Lv 40 ถึง Job Lv 50 ซึ่งเหมือนจะเป็นการให้โอกาสผู้เล่นได้เลือกว่าจะยอมทนความลำบากในการเปลี่ยน Class ไปจนถึง Job Lv ที่สูงกว่า 40 หรือไม่เพื่อแลกกับการได้ Skill Point ที่เพิ่มขึ้นอีก Lv ละ 1 Point ซึ่งจะว่าน้อยก็น้อยจะว่ามากก็มาก ขึ้นอยู่กับ Job ที่เป็นและกำลังจะเป็นต่อไป รวมถึงตัวผู้เล่นเองด้วยว่าพร้อมแค่ไหนกับเรื่องนี้ หลังจากนี้มีเกมที่มีแนวคิดแปลกๆ อีกเกมหนึ่งที่กำหนดให้ผู้เล่นเก็บ Lv ได้สูงสุดแค่ 70 แต่ถ้าท่านต้องการจะเก่งกว่านั้นต้อง Reset ตัวเองเป็น Lv 1 แล้วจะทำให้ Lv สูงสุดกลายเป็น Lv 71 แทน เมื่อท่าน Reset ตัวเองเมื่อถึง Lv สูงสุดไปเรื่อยๆ Lv สูงสุดก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ซึ่งมองแล้วก็เป็นการให้โอกาสผู้เล่นได้เลือกเพื่อจะเก่งขึ้นหรือไม่กับราคาที่สูงอยู่พอสมควรกระมังครับ

ตัวอย่าง Skill Tree ของ Acolyte / Priest ซึ่งได้ยินว่าผู้ที่เล่น Acolyte ส่วนใหญ่ มักจะเล่นจนกว่าจะได้ Job Lv 50 ก่อนค่อยทำ Class Change เป็น Priest
Credit : www.titopat923.blogspot.com

3. ผลกระทบของธาตุ เผ่าพันธุ์ หรือแม้กระทั่งขนาด ของมอนสเตอร์ - เมื่ออาชีพอย่าง Blacksmith ได้ถือกำเนิดขึ้นมาธาตุของมอนสเตอร์ ก็เริ่มมีความหมายมากกว่าแค่สำหรับ Mage ที่ใช้เวทย์ธาตุต่างๆ กับ Archer ที่ใช้ลูกธนูไฟได้ เมื่อรวมถึง ระบบการใส่การ์ดของมอนสเตอร์เพื่อเพิ่มความสามารถของตัวละคร ด้วยแล้ว RO ก็ถูกขยายความเป็นไปได้ในการผสมผสานของการเล่นให้ออกไปมากขึ้นอย่างมาก เมื่อผู้เล่นสามารถเลือกที่จะผสมสิ่งต่างๆ เพื่อให้เหมาะสมกับมอนสเตอร์ที่เป็นเป้าหมายได้หลากหลายทางเลือก และมีมอนสเตอร์ให้เลือกอีกหลากหลาย มันจึงเป็นความสนุกสนานอยู่ไม่น้อยสำหรับ "การทดลองทำสิ่งแปลกๆ" เพื่อพิสูจน์แนวคิดของผมในการเล่น เช่นเอาการ์ดถูกๆ มาใส่อาวุธไปลองเก็บ Lv กับมอนสเตอร์ที่คนไม่ค่อยสนใจ หรือการผสมสกิลกับความสามารถของการ์ดเพื่อให้เก็บ Lv ได้เร็วมากขึ้น "เมื่อมันท้าทาย ก็น่าสนใจที่จะลองทำดูล่ะมั้งครับ"

หลังจากนั้น Ragnarok Online ก็ได้ออกผลงานที่เกี่ยวข้องมากมายไม่ว่าจะเป็น Ragnarok Battle Offine, เกมบนมือถือ, เกมบน NDS, และอื่นๆ อีกมากมาย สำหรับผมแล้ว ถือได้ว่า RO เป็นเกมที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้เกมในอดีตอย่าง Dragon Quest หรือ Final Fantasy เลยล่ะครับ

หมายเหตุ : สุดท้ายนี้ โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่ค่อยประทับใจกับการพัฒนาเกม Ragnarok Online II เป็น 3D ค่อนข้างมาก ด้วยยังเชื่ออีกว่ารูปแบบ 2D บนแผนที่แบบ 3D ที่เคยใช้ใน RO ภาคแรก ก็มีเสน่ห์มากเพียงพออยู่แล้ว เหมือนเช่นครั้งหนึ่งที่เกมอย่าง Tokimeki Memorial เคยพัฒนาในภาคที่ 3 ให้เป็น 3D แต่ดูเหมือนจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรนักครับ ดังนั้นผมคิดว่าปัจจัยในการพัฒนาเกมให้ประสบความสำเร็จน่าจะไม่ได้ขึ้นกับการเป็นเกม 3D แล้วจะดีกว่าเกม 2D ครับ แต่เป็นเรื่องของการสร้างโลกของเกมในจินตนาการของคนเล่นให้รู้สึกถึงความผูกพันธ์กับเกมนั้นได้สำเร็จหรือไม่มากกว่าครับ

อาชีพ Ninja ที่มาใหม่ในภายหลัง
Credit : www.online-station.net
หมวกไอเท็มที่จะได้จากการเล่นเกม Ragnarok บนมือถือ
Credit : http://takato.exteen.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น