17 ธันวาคม 2552

Imagine-nation : London MCM Expo [09/12/09]

- งานจัดขึ้นที่ ExCeLLondon เป็นงานที่อาจไม่ใหญ่โตมากนัก แต่ก็มีคนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
- เป็นกระแส Japanese Pop Culture ในประเทศอังกฤษ ถือเป็นจุดร่วมของวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก (East & West Culture)
- ในงานมีบูทขายสินค้าต่างๆ เช่น ดาบ (Sword) หรือเสื้อผ้าต่างๆ (Costume)
- "Comic Village"
- "Manga Village"
- จุดที่แปลกออกไปเมื่อเปรียบเทียบกับงานที่ญี่ปุ่นคือ มีคนที่เดินทางมางานในอังกฤษเป็นคู่ๆ จำนวนมาก

- ในประเทศอังกฤษมี Game Center อยู่เป็นจำนวนมากครับ

Offical Link : www.londonexpo.com



Credit : mcmexpo

Japanese Ganige Topic
1. New Super Mario Bros. Wii - เป็นเกม Mario ภาคใหม่ที่ทำลงเครื่อง Nintendo Wii โดยจุดเด่นคือลักษณะเป็นแบบการเล่นคล้าย 2D แบบเกมมาริโอรุ่นแรกสุด แต่สามารถเล่นร่วมกันได้หลายคน โดยบังคับตัวละครของตนเองเดินทางผ่านอุปสรรคต่างๆ พร้อมกันในหน้าจอเดียวกัน (Multiplayer)
2. Rilakkuma Rhythm (Relax Kuma) - เป็นเกมบน NDS (Nintendo DS) เน้นใช้เสียงเพลงเพื่อทำให้คนเล่นรู้สึกผ่อนคลาย

16 ธันวาคม 2552

Imagine-nation : Bacelona - Salón Del Manga [16/12/09]

Barcelona - XV Salón del Manga (2009)
Credit : http://blogs.doblecero.com/vibraciones/?p=853

รายละเอียดภายในงาน
- เป็นงานใหญ่ที่จัดขึ้นที่ประเทศสเปนโดยมีบูทถึงกว่า 170 บูทอยู่ภายในงานนี้ โดยมีทั้งในส่วนของ Mangas, Cosplay Custumes, Figures
- สิ่งที่เหมือนกับงานใน London ก็คือ มีคนแต่ง Cosplay มาในงานจำนวนมาก ถือเป็นกระแสของ Japanese Pop Culture ในยุโรป
- พิธีกรทั้งสองได้ประมาณคร่าวๆ ว่า ในงานมี Manga ของญี่ปุ่น 80% และอีก 20% เป็น Manga ของสเปนเอง กับของอเมริกา (80% Japanese Manga and 20% Spain and American Manga)
- "Concurso Kame-Hame-Ha!" (Ka-me-ha-me-ha! Contest) - การแข่งขันบนเวทีโดยแสดงท่าทางการปล่อยท่า "พลังคลื่นเต่า" ครับ ^^ เท่าที่ดูส่วนใหญ่จะมาแสดงเดี่ยวครับ
- Para Para Dance Contest - เป็นการแข่งขันแบบทีมโดยเต้นประกอบเพลงบนเวที ซึ่งการเต้นแบบนี้สำหรับในสเปนถือได้ว่าเป็นกีฬาแบบหนึ่งที่มีการจับกลุ่มกันเต้นที่ลานกว้างๆ พร้อมเปิดเพลงญี่ปุ่นประกอบการเต้นได้เลย แต่สำหรับในญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเต้นกันเฉพาะในคลับหรือในดิสโก้ครับ
- "Concurso de Karaoke" - เป็นการแข่งขันร้องเพลงญี่ปุ่นบนเวที อาจมาได้ทั้งแบบเดี่ยวหรือแบบมาเป็นทีม โดยจะมีการเปิดเพลงให้ร้องแบบคาราโอเกะนั่นเอง (ไม่ทราบว่าจำกัดเฉพาะเพลงอนิเมชั่นหรือไม่ แต่เพลงหนึ่งที่ร้องในรายการผมคุ้นว่าจะเป็นเพลงจากอนิเมชั่น Negima ครับ)

ส่วนนี้เป็นการพาทัวร์บรรยากาศแบบญี่ปุ่นในบาร์เซโลน่าครับ
- "NORMA COMICS" - ร้านขาย Manga ของญี่ปุ่นรายใหญ่แห่งหนึ่งของสเปน โดยมีขายทั้งมังงะ ชุดคอสเพลย์ ฟิกเกอร์ รวมไปถึงหนังสือสอนภาษาญี่ปุ่นด้วยภาพแบบ Manga อีกด้วย
- "Shibuya de Pako" - ร้านตัดผมที่สามารถตัดตามแบบทรงผมที่ลงในนิตยสารแฟชั่นของญี่ปุ่น หรือเป็นทรงผมจากตัวละครไม่ว่าจากในเกมหรือมังงะญี่ปุ่น ตามที่ลูกค้าได้เลือกไว้ เช่น จากเกม Soul Calibur, หรือเรื่อง Nana เป็นต้น โดยเปิดดำเนินการเมื่อ 3 ปีก่อน เจ้าของเล่าว่าเกิดจากการได้อ่านมังงะแบบญี่ปุ่นมาตั้งแต่เด็กจึงเกิดความรักในวัฒนธรรมแบบนี้ เมื่อได้มีโอกาสเปิดร้านของตนเองจึงตัดสินใจทำในสิ่งที่ตนมีความสนใจอยู่
- "AKIBA" - ร้านที่เน้นขายสินค้าจากญี่ปุ่นและมีตู้ถ่ายสติกเกอร์แบบญี่ปุ่นอยู่ด้วย
- "Demonix" - คลับที่มีการจัดให้นักสเปนที่ร้องเพลงญีปุ่นขึ้นร้องบนเวที

Other Links : http://sakurasaku77.blogspot.com/2009/11/xv-salon-del-manga-de-barcelona.html

เรื่องอื่นๆ
1. "No Longer Human" - Animation ที่ถูกสร้างจากนิยาย โดยมีทาเคชิ โอบาตะ ผู้เขียน Death Note เป็นผู้ออกแบบปกของหนังสือให้
2. "HIGANJIMA" - ภาพยนตร์ที่สร้างจาก Manga ชื่อเดียวกัน (ชื่อภาษาไทย คือ เรื่อง "เกาะกระหายเลือด") เป็นผลงานของอาจารย์ Koji Matsumoto

03 ธันวาคม 2552

Imagine-nation : Music Manga [02/12/09]

Credit : http://cannedmemory.wordpress.com

1. Music Manga เป็นแนวที่เริ่มได้รับความนิยมในปัจจุบัน และมีผลในแง่การตลาดอย่างมาก โดยมีการผลิตสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Trading Card, Sound Track, Anime, Video Game, Concert, และอื่นๆ ยกตัวอย่าง เช่นผลกระทบจากเรื่อง K-ON! ทำให้กีต้าร์รุ่นที่ใช้ในเรื่องขายดีเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับกีต้าร์รุ่นอื่นๆ เลยทีเดียว

2. ตัวอย่าง Music Manga ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เช่น K-ON!, NANA, Beck (เป็นเรื่องแนว Rock Music), NODAME Cantabile (เป็นเรื่องแนว Classic Music เกี่ยวกับ Conductor เขียนโดย Tomoko Ninomiya โดยเรื่องนี้ถึงขนาดมีการจัดการแสดงออร์เครสตร้าเลยทีเดียว), MAESTRO

3. "MOE" Market เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ Music Manga ใช้เป็นแนวทางในการสร้างกระแสความนิยม โดยบางเรื่องก็จัดเป็น Shoujo Manga แต่อย่างไรก็ดีเรื่องแนวดนตรีส่วนใหญ่มักจะเกี่ยวกับการพรรณาถึงอารมณ์ความรู้สึก และมีแนวเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในเรื่อง (Human Relationship)

4. Mama No Violin (เขียนโดย Tetsuya Chiba) ถือเป็น Music Manga เรื่องแรกของญี่ปุ่น โดยเริ่มพิมพ์ตั้งแต่ปี 1958 เลยทีเดียว ด้วยเนื้อเรื่องเกี่ยวกับลูกสาวที่แม่หายตัวไปตั้งแต่ตัวเธอยังเด็ก โดยทิ้งไว้แต่ไวโอลินของแม่ เธอจึงเริ่มฝึกเล่นไวโอลินตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งถือได้ว่าเรื่องนี้เป็นตัวจุดกระแสการเล่นไวโอลินของเด็กผู้หญิงในสมัยนั้นเลยทีเดียว หลังจากนั้นก็มีเรื่องอื่นๆ เช่น Orpheus No Mado, TO-Y (1985) ต่อมาในช่วงยุค 1980s จึงถือเป็นช่วงบูมของวงดนตรี (Band) ในญี่ปุ่น

5. AKIRA SASO ผู้เขียนเรื่อง SHINDO (ภายหลังได้ทำเป็นภาพยนตร์ในชื่อเรื่องเดียวกัน) แนะนำว่าการเขียนภาพของเครื่องดนตรีให้ดูเป็นสามมิติในการ์ตูนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ตัวเขานั้นต้องมีเครื่องดนตรีจริง เช่น ไวโอลิน หรือ ฟลุต ไว้ใช้เป็นแบบในการเขียนรูปเหมือนกัน ในช่วงสุดท้าย เขาพยายามที่จะสื่อสารให้ผู้อ่านได้รู้สึกถึงความสวยงาม (Beauty) ของดนตรีผ่านทางงานเขียนของเขา

6. การแสดงความรู้สึกของเสียงดนตรีผ่านงานเขียนนั้น (Type of Expression) มีได้หลายๆ รูปแบบ เช่น
- การใช้เส้นกระจายออก เพื่อแสดงถึงเสียงที่ดังออกมา
- เส้นที่ตัดกันเป็นตาข่าย เพื่อแสดงถึงเสียงของดนตรีแนว Rock
- ตัวหนังสือ (เช่น WAAAAA...) เพื่อแสดงถึงเสียงที่ดัง หรือลำโพง
- ตัวโน๊ตดนตรี
- ปฎิกิริยาของสัตว์ต่างๆ เช่น นกหลายๆ ตัวที่บินมารวมกันบนเปียโนที่นักดนตรีกำลังเล่นอยู่

7. สุดท้ายนี้ หลายๆ ท่านให้ความเห็นว่า จุดสำคัญของการเขียนเรื่องแนว Music Manga นั้นจะคล้ายกับเรื่องแนว Cooking Manga กล่าวคือ ผู้อ่านไม่สามารถที่จะได้ยินเสียงจริงๆ ดนตรีจากตัวละครในเรื่องได้ แต่ผู้เขียนจะต้องแสดงความรู้สึกผ่านภาพและเส้น เพื่อสื่อถึงผู้อ่านให้ได้จินตนาการถึงเสียงดนตรีที่ไพเราะที่สุดที่เขาเคยได้ยินมา ซึ่งจะไม่เหมือนกับการฟังดนตรีจริงๆ ที่ผู้ฟังอาจรู้สึกว่าดนตรีนั้นไม่ได้ไพเราะเท่าใดนัก แต่ถ้าเป็นดนตรีที่ตนเองจินตนาการขึ้นจากการ์ตูนที่บรรยายถึงความไพเราะแล้ว ผู้อ่านจะจินตนาการถึงดนตรีที่ไพเราะที่สุดที่ตนเคยได้ยินขึ้นเอง

Credit : http://kokuun.wordpress.com

Creator 's Interview - "Akira Yoshida" เป็นผู้สร้างสรรค์งานอนิเมชั่นด้วย Flash
- Shadow of Cherry Blossom เป็นงาน Animation ที่ถูกสร้างด้วย Flash ยาว 14 นาที
- ตัวเธอเล่าว่าการทำ Flash Animation นั้นทำได้ง่ายกว่าการทำ Animation ในแบบอื่นๆ โดยครั้งแรกที่เธอทำนั้น คือ การทำให้ตัวละครกระพริบตา ซึ่งเธอรู้สึกประทับใจกับมันมากเลยทีเดียว
- นอกจากนี้ ที่งานเป็นแนวญี่ปุ่นโบราณนั้น เป็นเพราะความชื่นชอบส่วนตัวของเธอที่ชอบศิลปะในยุคเฮอันและเอโดะเป็นพิเศษ (Heian & Edo Period)

เรื่องอื่นๆ
1. MagaMonsterBattle ULTRA GALAXY THE MOVIE - เป็นหนังใหญ่โดยมีการรวบรวมยอดมนุษย์อุลตราแมนหลายๆ ภาคต่อสู้ร่วมกันในอวกาศ
2. Tokyo Friend Park II (Wii) - เป็นเกมใหม่ที่มาจากเกมโชว์ทางโทรทัศน์ชื่อดังของญี่ปุ่น (TV Game Show) ซึ่งจะเป็นเกมที่ให้ผู้เข้าแข่งขันต้องเล่นเพื่อชิงรางวัล
3. Eden of the East I : The King Of Eden / Eden of the East II : Paradise Lost

25 พฤศจิกายน 2552

หมู,ความเครียด,และการหย่านม

Credit : http://pictoriumfever.blogspot.com

วันนี้ได้ดูรายการท่องโลกกว้างของช่อง Thai PBS เป็น สารคดีเกี่ยวกับ "หมู" ในช่วงแรกก็เป็นเรื่องทั่วๆ ไปที่คิดว่าคงจะนำมาใช้ประโยชน์ได้ไม่มากนัก แต่ที่สะดุดใจจนต้องนำมาเขียนบทความก็คือในส่วนของการทดลองที่เกี่ยวกับ "การหย่านม" ของลูกหมูก่อนกำหนด (ลูกหมูในธรรมชาติจะกินนมถึงประมาณสัปดาห์ที่ 12 แล้วหลังจากแม่หมูจึงเริ่มให้ลูกหมูกินอาหารที่แข็ง แต่ในการทดลองจะใช้หมูที่หย่านมก่อน 3 สัปดาห์ซึ่งมาตรฐานของฟาร์มทั่วไปจะแยกลูกหมูจากแม่หมูให้หย่านมเมื่อเกิดได้ประมาณ 2 สัปดาห์)

""การทดลองหย่านมลูกหมูก่อนเวลา" นี้ ไม่ได้ทดลองในแง่ของการเติบโตทางร่างกายภายนอก แต่เป็นการทดลองดูผลกระทบของความเครียดที่เกิดขึ้นกับลูกหมู ที่มีผลต่อการพัฒนาการทางสมองและอารมณ์ โดยหลักๆ แบ่งการทดลองเป็น 3 ส่วน คือ

1. "ทดลองผลกระทบทางอารมณ์" - โดยเมื่อนำลูกหมูที่หย่านมเร็ว มาอยู่ร่วมกันกับลูกหมูตัวอื่นที่ไม่ใช่พี่น้องของมัน ปรากฎว่า มันมีความก้าวร้าวอย่างมาก และเข้าต่อสู้กับลูกหมูตัวอื่นอย่างรวดเร็ว โดยพยายามกัดที่แก้มและหู

2. "ทดสอบความจิตใจ" - เป็นการนำลูกหมูไปเดินบนโต๊ะที่สูงจากพื้นราว 1 เมตร ซึ่งสำหรับลูกหมูที่สูงไม่เกิน 10 เซนติเมตรก็คงถือว่าสูงมากเหมือนกัน ซึ่งมี 2 ส่วน โดยส่วนหนึ่งจะมีคอกพลาสติกใสกั้นทั้ง 3 ด้าน และอีกด้านหนึ่งจะไม่มีสิ่งใดกั้นเลย แล้วปล่อยให้หมูเดินอย่างอิสระ ปรากฎว่า
- ลูกหมูที่หย่านมเร็วเดินเข้าไปในส่วนของคอกและไม่กล้าที่เดินออกจากคอกเลย
- แต่ลูกหมูที่หย่านมตามธรรมชาติกลับไม่กลัวและเดินสำรวจไปทั่วโต๊ะ

3. "ทดสอบสมองและความสามารในการจดจำ" - เป็นการใช้สระน้ำทรงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 เมตรมีน้ำลึกพอที่ลูกหมูจำเป็นต้องว่ายน้ำตลอดเวลาไม่งั้นจะจมน้ำ และไม่สามารถไต่ขึ้นที่ขอบสระน้ำได้ แต่ที่ด้านหนึ่งของสระน้ำมีการนำกล่องไปวางไว้ในน้ำเป็นแท่นยืนซึ่งถ้าหมูหาเจอจะสามารถยืนเฉยๆ ได้ โดยไม่ต้องว่ายน้ำ
- การทดสอบกับที่ลูกหมูที่หย่านมตามธรรมชาติพบว่า ในครั้งแรก มันค่อยๆ ว่ายน้ำสำรวจไปรอบๆ สระ จนเจอแท่นยืน และขึ้นไปยืนได้อย่างง่ายดาย ต่อมาเราก็นำมันขึ้นจากสระพักไว้ราว 10 นาที ก่อนจะทดสอบแบบเดิม ปรากฎว่าในการทดสอบทุกครั้งหลังจากนั้น เมื่อมันลงน้ำ มันจะว่ายน้ำตรงไปยังแท่นยืนอย่างรวดเร็ว
- แต่ลูกหมูที่หย่านมเร็ว เรากลับพบว่าเมื่อมันลงน้ำ มันหวาดกลัวอย่างมากและว่ายน้ำอย่างสะเปะสะปะ จนถึงแม้จะอยู่ใกล้แท่นยืนก็กลับไม่รู้สึกถึงแท่นยืนได้ และเมื่อเราทดสอบแบบเดิมซ้ำ เราก็พบว่าเสมือนมันไม่ได้เรียนรู้จากการทดสอบครั้งแรกเท่าใดนัก

ทั้งหมดที่ว่ามานี้ก็มิได้ชี้ชัดถึงประโยชน์การให้เด็กได้กินนมแม่จนพ้นอายุช่วงหนึ่ง (ถ้าผมจำไม่ผิดก็คือควรให้กินถึงเมื่อเด็กอายุ 12 เดือน) แต่ผมก็เชื่อว่าการให้เด็กได้กินนมและอยู่กับแม่อย่างใกล้ชิดในช่วงเด็กจะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีไม่ว่าจะทางร่างกาย ทางสมอง รวมไปถึงทางอารมณ์อีกด้วยครับ

เกร็ดอื่นๆ เกี่ยวกับหมูที่น่าสนใจ
1. หมูเป็นสัตว์ไม่กี่ชนิดที่มีฟันมาตั้งแต่เกิด โดยในเรียกว่า "ฟันเจาะน้ำนม" (ถ้าจำผิดก็ขออภัยครับ) ซึ่งฟันนี้จะมีความแหลมคมอย่างมาก
2. ใน 2 ชั่วโมงแรกลูกหมูที่เพิ่งเกิดจะต้องทำหลายๆ สิ่งด้วยตัวเองไม่ว่าจะทำความสะอาดคราบเหนียวที่ติดตัว, ตัดสายรก, เดินให้ได้ด้วยตัวเองเพื่อไปดูดนมของแม่หมู
3. มีการทดลองแปลกๆ เกี่ยวกับลูกหมู โดยทำการเขียนหมายเลขที่ตัวลูกหมูเพื่อระบุว่าลูกหมูตัวไหนดูนมที่เต้านมไหนของแม่หมู แล้วจับลูกหมูออกมาห่างๆ แล้วค่อยปล่อยกลับให้ไปดูดนมปรากฎว่า พวกมันกลับไปดูดที่เต้านมเดิมของตัวเองโดยไม่ได้สนใจไปแย่งเต้านมของลูกหมูตัวอื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าแปลกใจจริงๆ
4. อวัยวะภายในของหมูคล้ายคนมาก ถ้าไม่นับในกลุ่มของลิงแล้ว เช่นในปัจจุบันอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้รักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจจะต้องทดสอบกับหัวใจหมูจนแน่ใจก่อนว่าปลอดภัยจึงจะสามารถนำมาใช้กับคนได้
5. ลูกหมูจะโตจนมีน้ำหนักประมาณ 100 เท่าของตอนเกิดในเวลาประมาณ 6 เดือน ซึ่งถ้าเปรียบเทียบเป็นเด็กที่คลอดมีน้ำหนัก 8 ปอนด์ (ประมาณ 4 กิโลกรัม) จะมีน้ำหนัก 800 ปอนด์ (ประมาณ 400 กิโลกรัม) ตอนอายุ 6 เดือน ^^"
6. ปัจจุบันมีประชากรหมูในโลกประมาณ 1,000 ล้านตัว โดยมีอยู่ในหลายๆ สถานที่ไม่ว่าจะในฟาร์ม ในป่า หรือในบ้านของคนเป็นสัตว์เลี้ยงก็ตาม

Credit : www.wallcoo.net

21 พฤศจิกายน 2552

หนึ่งใน Music Video ที่ดีที่สุดตลอดกาลของผม



Britney Spears - Sometimes
[OFFICIAL MUSIC VIDEO HD]
Credit : Devastationity

แม้มันจะเก่ามากแล้ว แต่ความสดใสของมิวสิควิดีโอก็ทำให้รู้สึกชอบในเกือบทุกครั้งที่ดูครับ ^_^

05 พฤศจิกายน 2552

Imagine-nation : LEVEL-5 [04/11/09]

เป็นบริษัทผลิตเกม (Level-5 Inc.) สำนักงานใหญ่อยู่ที่ฟุกุโอกะ (Fukuoka) แถบคิวชู มีผลงานเกมที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น
1. Ninokuni - เป็นแนว RPG ที่ทำร่วมกับ Studio Ghibli

Credit : www.zentendo.com

2. Inazuma Eleven 2 - ภายหลังจากภาคแรกในปี 2008 โดยเป็นแนวคิดผสมผสานระหว่างเกม RPG กับฟุตบอล โดยภาคแรกออกในปี 2008 จุดพิเศษอย่างหนึ่งของเกม คือ หลังจากแข่งชนะคู่แข่งแล้วสามารถที่จะชวนนักเตะของคู่แข่งให้เข้ามาร่วมทีมของตนเองได้อีกด้วย จึงสามารถจัดทีมที่แตกต่างกันออกไปได้มากมาย

Credit : www.wii-brasil.com

3. "Professor Layton" Series - ปัจจุบันมีออกมาทั้งหมด 3 ภาค ลงใน Nintendo DS (NDS) โดยปัจจุบันมีการนำไปเผยแพร่ใน Manga และ Anime แล้ว

Professor Layton and The Diabolical Box
Credit : www.tumragame.com

4. Dragon Quest VIII - เป็นงานใหญ่ที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของบริษัท (Big Turning Point) ซึ่งยังถือว่าเป็นบริษัทผลิตเกมขนาดเล็กอยู่ในปี 2004 โดยถือเป็นภาคแรกของเกมในซีรี่ย์ Dragon Quest (DQ) ที่ทำเป็น 3D และมีบางส่วนเป็นอนิเมชั่น (Anime Like) ทำให้เกมดราก้อนเควสภาคนี้เป็นภาคที่ทำยอดขายได้สูงสุดเมื่อเทียบกับอีก 7 ภาคที่ผ่านมา นอกเหนือจากนี้ภายหลังบริษัทยังคงได้รับความไว้วางใจในการสร้าง Dragon Quest IX ซึ่งออกในปี 2009 (ปีนี้) ลงใน NDS อีกด้วย
5. Dark Cloud & Dark Cloud 2 - เป็นเกมที่สร้างชื่อให้กับบริษัทในตลาดทั้งในญี่ปุ่นและยุโรป เนื่องจากเป็นเกม 3D RPG ที่ทำลง Play Station 2 (PS2) โดยภาคแรกสร้างเมื่อปี 2000

ในช่วงแรก บริษัท LEVEL-5 ผลิตเกมในแนว RPG ที่เน้นการผสมผสานไอเดียต่างๆ มากมาย (Various Idea) โดยเน้นในแนวคิดที่เป็นการรวบรวมมินิเกมมากมายไว้ภายในเกม ภายหลังจากการขึ้นไปทำโปรเจคใหญ่อย่าง DQ VIII ก็ลงจากการสร้างเกมเกาะกระแสแบรนด์ที่ดังแล้ว (Bandwagon) อย่างในซีรี่ย์ DQ มาสร้างโปรเจคของตนเองอย่าง Professor Layton โดยมีแนวคิดผสมผสานจากกระแสของเกมดังอย่าง "Brain Age" จึงนำแนวคิดที่ผสมผสานโดยการสร้างเกมในแนวฝึกสมอง (Brain Training หรือแนว Puzzle) ให้มีเนื้อเรื่องที่เข้มข้น (Storyline) โดยเกมถือเป็นเกมผจญภัยแนวแฟนตาซี ( Fantasy Adventure) โดยมีภาพของโลกภายในเกมแบบหนังสือภาพ (Picture Book)

สำหรับการที่ไม่ตั้งบริษัทไว้ที่โตเกียวนั้น ทางบริษัทก็ยอมรับว่าการตั้งไว้ที่ทางฟุกุโอกะก็ทำให้ไม่ได้รับความสะดวกอยู่บ้าง แต่เขาเชื่อว่าบริษัทจะมีส่วนทำให้ฟุกุโอกะก้าวไปเป็นฮอลิวูดแห่งเกม (Hollywood of Game) และเป็นศูนย์กลางแห่งความคิดสร้างสรรค์ได้ (Center of Creative) นอกเหนือจากนี้ ผู้เชื่ยวชาญด้านเกมเชื่อว่าการที่เขาตั้งบริษัทไว้ในฟุกุโอกะนั้นถือเป็นจุดแข็งอย่างหนึ่งของบริษัท เนื่องจากคนในแต่ละพื้นที่นั้นจะมีแนวความคิดที่แตกต่างกัน (Strong Original / Local Idea)

สุดท้ายนี้ ทางบริษัทหวังว่าจะสามารถสร้างเกมที่ให้ความบันเทิง และสร้างเซอร์ไพรสให้กับผู้เล่นได้ พร้อมทั้งแนะนำว่าจุดสำคัญในการทำงานของคนภายในบริษัท คือ ให้พูดคุยทำความเข้าใจกันมากกว่าการใช้เวลาทำงาน (Communication more than Work)

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับบริษัท LEVEL-5
1. Akihiro Hino แนวทางสู่ความสำเร็จของ Level-5
2. Notable Japanese Developers : LEVEL-5

Creator's Interview : "Kazumi Yamada"
- เป็นผู้สร้างอนิเมชั่นที่เน้นสร้างงานโดยผสมผสานภาพคอมพิวเตอร์กราฟฟิค (CG) เข้ากับเสียงเพลง (Music)
1. Monster Boots - เป็นผลงานหนังสั้นที่สร้างชื่อให้เขาในปี 2006
2. Red Bicycle
3. Kikurage

เขาเชื่อว่าทั้ง ภาพคอมพิวเตอร์กราฟฟิค และ เสียงดนตรี เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่เหมือนกัน (CG and Music are a part of same thing) นอกจากนี้การที่สร้างสรรค์ผลงานทั้งสองออกมาในรูปแบบนี้ทำให้ทั้งสองส่งเสริมซึ่งกันและกัน (Promote) โดยมีเป้าหมายของผู้สร้าง คือ ต้องการให้งานของเขาสร้างผลกระทบ (Impact) และความแปลกใจ (Surprise) ให้กับผู้คน

เรื่องอื่นๆ
1. Mai Mai Miracle - สร้างโดย NobuKo Takagi เป็นเรื่องชีวิตของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ในชนบทของญี่ปุ่นในช่วงปี 1955 ซึ่งค่อยเติบโตอย่างช้าๆ ในโลกที่เงียบสงบ (Calm and Peace) พร้อมกับเพื่อนของเธอ
2. Samurai Warrior 3 (Sangoku Musou 3)

29 ตุลาคม 2552

Imagine-nation : SONIC THE HEDGEHOG [28/10/09]

SONIC The Hedgehog
Credit : www.gamespot.com

เป็นตัวละครที่ถือเป็น Flagship ของค่าย SEGA และถือได้ว่าเป็นคู่ปรับของ Mario จากค่าย Nintendo เลยทีเดียว โดยจนถึงปัจจุบันนั้นสามารถขายเกมที่เกี่ยวกับโซนิคได้มากถึง 60 ล้านชุดเลยทีเดียว

"โซนิค (Sonic)" เริ่มเปิดตัวครั้งแรกในเครื่องเกม Mega Drive ของทางเซก้าเอง ในปี 1991 โดยการดีไซน์ของคุณ Yuji Naka โดยตั้งใจให้เป็นเกมที่ผู้เล่นจะได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ จากการเล่น โดยมุ่งเน้นในจุดที่มาริโอขาดไป คือ เรื่องของความเร็ว ดังนั้น โซนิคจึงเป็นเกมที่ใช้แนวคิดของ Ultimate Speed หรือ Hyper Speed Action Game ในอีกมุมมองหนึ่งก็จะทำให้นึกถึง Roller-Coaster แต่อีกจุดหนึ่งที่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้โซนิคเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายก็คือ การทำตลาดของทางเซก้า ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ และการเป็นสปอนเซอร์ให้กับทั้งการแข่งรถ และฟุตบอลพรีเมียร์ลีก จึงทำให้โซนิคเป็นที่รู้จักทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา

ภาพภายในเกมโซนิคที่ออกภาคแรกเมื่อปีค.ศ. 1991
Credit : http://videogames.yahoo.com

"โซนิคในเวอร์ชั่นแรก" มีแนวคิดที่จะวางตัวให้ดูเท่ห์ และมีมุมมองทางการตลาดในทางอเมริกาอยู่แล้ว จึงเน้นใช้สีสันโทนฟ้าและส้ม ไม่ว่าจะตัวละครหรือฉากหลัง รวมไปถึงความตั้งใจให้เกมเล่นและควบคุมได้ง่าย ก็ช่วยให้ได้รับความนิยมทั้งในผู้เล่นที่เป็นเด็กและผู้ใหญ่ และโฆษณาของเกมทางอเมริกาซึ่งสามารถที่จะทำโฆษณาเชิงกระทบคู่แข่งได้นั้น ก็ชูจุดขายที่เรื่องความเร็วของมาริโอที่สู้เกมอย่างโซนิคไม่ได้มาแล้ว

ต่อมาในปี 1998 โซนิคก็ยังคงก้าวต่อไปเป็นเกม 3D ในเวอร์ชั่นของ Dreamcast ซึ่งเป็นเครื่องเกมที่ผลิตโดยเซก้าอีกเช่นเดิม แต่เมื่อเวลาผ่านไป เซก้าเลิกที่จะแข่งขันในการสร้างเครื่องเกมของตนเอง ภายหลังจากยุคของเครื่อง Dreamcast ทำให้โซนิคและมาริโอก็สามารถมารวมอยู่ในเกมเดียวกันอย่างเกม Super Smash Bros และเกม Olympic แต่อย่างไรก็ดีในการสร้างเกมในแนวที่แตกต่างออกไปอย่างเกมกีฬานั้น การพยายามสร้างคาแรกเตอร์ของโซนิคในความคาดหวังของผู้เล่น ไม่ว่าตัวละครนั้นจะดู fussy (จู้จี้จุกจิก) หรือ kind (ใจดี) ก็ต้องทำให้สิ่งนั้นแสดงออกมาให้ได้

นอกเหนือจากเกมแล้ว Sonic ก็เคยมีอนิเมชั่นอย่าง "SONIC X"

Credit : http://theexiled.pwnageservers.com

Creator's Interview
"Takahito Ekusa" ผู้เขียน Manga เรื่อง "Binchotan" (ถือเป็นแนวคิดในแบบ Personified Anime)

บินโจทาน (Binchotan) ซึ่งมีแนวคิดมาจากถ่านบินโจ
Credit : www.crunchyroll.com

- เป็นเรื่องแนว Heart Warming Story โดยเป็นเรื่องแรกที่เริ่มเขียนซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากแนวคิดที่ว่าผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจะตั้งชื่อแล้วต่อด้วย "-tan" ให้กับตัวละครที่น่ารัก เหมือนกับที่ในญี่ปุ่นจะต่อด้วย "-chan" เขาจึงได้แนวคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าสนุกดีจึงเริ่มวาดออกมาเป็น Doujin ออกขายในงาน Comicket ในรูปแบบของ 4 frames (คิดว่าหมายถึงโดจินแบบ 4 ช่องจบครับ) เมื่อเขียนออกขายในงานหลายๆ ครั้งก็เริ่มมีบริษัทเข้ามาติดต่อเพื่อจับพิมพ์เป็นซีรี่ย์ต่อเนื่อง โดยตอนแรกนั้นเขาก็ไม่ได้มีการวาง Concept ของเรื่องไว้ แต่วาดไปตามที่ใจคิดอยากให้เป็น ด้วยความตั้งใจให้เป็นเรื่องจากใจถึงใจ (Story of Heart to Heart) เพื่อเป็นการให้ทั้งความบันเทิงและกำลังใจกับผู้อ่าน (entertain and encourage) แต่อย่างไรก็ดีเขาก็ทิ้งท้ายไว้ว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่เขาคำนึงถึงก็คือ เขาต้องรู้สึกมีความสุขด้วย (enjoy my life)

Credit : www.oiihk.com

เรื่องอื่นๆ
1. Megaman EXE operate shooting star
2. Kiminitodoke ~ Sodaterunomoi ~ - เริ่มจากการเป็น Manga ยอดนิยมในญี่ปุ่น จนกระทั่งได้ก้าวต่อไปเป็น Animation และปัจจุบันก็ได้สร้างเป็น Game โดยอิงจากเรื่องราวของ Manga เป็นหลัก
3. Tokyo Game Show 2009 - เป็นงานยาว 4 วันที่เพิ่งจบไปโดยจะมีการนำรายละเอียดมานำเสนอในภายหลัง




Binchotan Trailer
Credit : guapozmol



Bincho tan Opening theme / Iroha by CooRie
Credit : Mizuho143143

22 ตุลาคม 2552

Imagine-nation : S.B.O. 09 (Super Battle Opera 2009) [21/10/09]

เป็นการแข่งขันในครั้งที่ 7 โดยปีนี้เกมที่ใช้แข่งขัน คือ Street Fighter III : 3rd Strike -Fight for the Future- จากการแข่งขันของผู้เล่นกว่า 23,000 คนในรอบคัดเลือก จนเหลือเพียง 641 คนเท่านั้น ที่จะได้แข่งขันกันต่อหน้าผู้ชมจำนวน 5,000 คนในสนามแข่งรอบสุดท้าย



Credit : itsumobasho

เรื่องอื่นๆ
1. "Ryouichi Mori" - ผู้สร้าง 3D-CG Animation ที่ได้ฉายผ่านจอโทรทัศน์อย่างเรื่อง "Peeping Life" โดยมีแนวคิดต่างๆ เช่น

- สมัยเขาเรียนมหาวิทยาลัย เขาต้องเรียนรู้การวางแผนในการสร้างผลงานตามขั้นตอนต่างๆ เช่น การมี Storyboard แต่เมื่อเขาจบออกมาและสร้างสรรค์งานด้วยตัวเองคนเดียว เขารู้สึกว่าการทำงานแบบไม่มีแผนงานกำกับนั้น จะได้ผลงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากกว่า

- เขาต้องการนำเสนอแนวคิดผ่านผลงานของตนเองว่า "ในทุกๆ วันนั้น ชีวิตมีเรื่องตลกอยู่มากมาย"

2. "LovePlus" [NDS] - เป็นเกมที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในญี่ปุ่นขณะนี้

WebSite ของไทยที่แนะนำวิธีเล่นเกมอย่างละเอียดครับ (น่าสนใจมากครับ แนะนำให้ลองเข้าไปดู แม้ไม่ได้คิดจะเล่น แต่ไอเดียของเกมที่ได้รับความนิยมก็เป็นแนวทางที่ดีในการสร้างสรรค์ผลงานของเราครับ)

- http://toilets.exteen.com/20090921/l-love-plus

- http://www.iamclaz.net/loveplus-wiki-beta-1st-edition/




Credit : superspitz

3. "Gran Turismo" [PSP] - เป็นเกมแข่งรถที่ได้รับความนิยมมาเป็นเวลายาวนาน

04 ตุลาคม 2552

โฆษณา : ไทยประกันชีวิต Whatever will be will be



โฆษณา : ไทยประกันชีวิต Whatever will be will be
Credit : daylitedarknight

01 ตุลาคม 2552

Imagine-nation : Creator's Interview Special 2 (Encore) [30/09/2009]

เป็นการนำมาออกอากาศซ้ำในเรื่อง Creator's Interview Special 2 ครับ

26 กันยายน 2552

Imagine-nation : Manga Koshien [23/09/09]

Credit : www.manga-koshien.net

เป็นการแข่งขัน (Contest) วาด Manga ของนักเรียนในระดับมัธยมปลาย (High School Competition) ที่จัดขึ้นทุกๆ ปี โดยเป็นการลงแข่งขันกันเป็นทีม ทีมละ 3-5 คน ให้วาดงาน Manga 1 ภาพ (One Piece Manga) เพื่อส่งเข้าประกวดและให้คะแนนเพื่อชิงตำแหน่งโรงเรียนอันดับ 1 โดยการแข่งขันในปี 2009 ที่ผ่านมานี้เป็นการแข่งขันครั้งที่ 18

เหตุผลที่เป็น Manga Koshien เพราะการแข่งขันจัดขึ้นในแถบโคชิ (Koshi) ด้วยสาเหตุส่วนหนึ่ง คือ แถบโคชินี้เป็นที่มีนักเขียนทั้งมืออาชีพ และมือสมัครเล่นจำนวนมาก เกิดขึ้น

ก่อนเริ่มการแข่งขัน (คาดว่าประมาณ 1 สัปดาห์) จะมีการกำหนดหัวข้อจำนวน 5 หัวข้อ โดยแต่ละหัวข้อจะถูกเลือกเพื่อเป็นโจทย์สำหรับในการแข่งขันรอบต่างๆ จำนวน 3 รอบ เช่น Heart,Endangered Species ซึ่งจะแบ่งเป็นแต่ละรอบดังนี้

รอบแรก. - จะวาดผลงาน 1 ชิ้น ส่งให้คณะกรรมการคัดเลือกโรงเรียนที่จะผ่านเข้ารอบ โดยจะมีการประกาศชื่อโรงเรียนที่ผ่านเข้ารอบในเย็นวันนั้น
รอบที่ 2. - จะเข้าพักที่โรงแรมและวาดผลงานส่งก่อนเที่ยงคืน การตัดสินจะทำกันในเช้าวันถัดมา โดยให้ชาวเมืองลงคะแนนคนละ 1 คะแนน ในช่วงสายจะทำการรวมคะแนน และตัดสินทีมที่ผ่านเข้ารอบ
รอบสุดท้าย. - เริ่มการแข่งขันในช่วงบ่ายของวันที่ 2 นั้น โดยคณะกรรมการจะได้รับการ์ดให้คะแนนคนละ 10 ใบและสามารถให้คะแนนผลงานไหนก็ได้ที่ตนเองชื่นชอบ

โรงเรียนที่ชนะจะได้รับรางวัลต่างๆ รวมไปถึงได้สิทธิครอบครอง "ธงชนะเลิศ" เป็นเวลา 1 ปี ในส่วนนี้จะเหมือนกับทีมเบสบอลที่ชนะเลิศในการแข่งขันโคชิเอ็น


ภาพที่ชนะเลิศในงาน Manga Koshien ครั้งที่ 18 ปี 2009 ในหัวข้อ "Endangered Species"
Credit : www.manga-koshien.net

โดยประโยชน์ที่คาดว่านักเรียนจะได้รับจากการแข่งขัน (Contest) คือ ถ้านักเรียนวาด Manga โดยทั่วไปให้เพื่อนๆ ได้ดูกัน ก็มักจะเป็นแค่งานแบบลวกๆ (Scribbling) และอาจไม่ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมจากเพื่อน แต่ถ้าเข้าแข่งขันแล้วผลงานจะต้องสร้างสรรค์อย่างมีคุณภาพและได้รับการตัดสินโดยนักวาดมืออาชีพ (Judge by Professional)

มุมมองของผู้เขียน Blog เมื่อดูรายการ Imagine-Nation เกี่ยวกับงาน Manga Koshien นี้
1. เป็นงานที่น่าจะช่วยให้เกิดการพัฒนาในวงกว้าง เพราะคนเราจะเกิดความพยายามมากขึ้นเมื่อต้องแข่งขันกับคนหรือทีมอื่นๆ
2. เป็นการฝึกการทำงานเป็นทีม เพราะมีเวลาที่จำกัด และทำงานชิ้นเดียว จึงต้องแบ่งงานกันทำตามความถนัดของแต่ละคน เช่น คนที่ถนัดวาดรูปสัตว์ ถนัดวาดรูปคน ถนัดลงสี และอื่นๆ
3. การใช้ชื่อโคชิเอ็นจะช่วยให้คนรู้สึกว่าการแข่งขันเป็นงานที่มีความสำคัญ เพราะโคชิเอ็นเป็นสนามแข่งกีฬาของเบสบอลระดับมัธยมปลาย ซึ่งเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอันดับ 1 ในญี่ปุ่น
4. การแข่งขันในนามของโรงเรียนจะส่งผลให้โรงเรียนที่ต้องการมีชื่อเสียงมากขึ้นในระดับประเทศ จะช่วยสนับสนุนให้นักเรียนเพิ่มความสามารถในการทำงาน Manga มากยิ่งขึ้น เช่น การอนุญาติให้จัดตั้งชมรม การมีอาจารย์ที่ปรึกษา การสนับสนุนเงินทุน เป็นต้น

โดยส่วนตัวผมก็อยากเห็นการแข่งขันแบบนี้ในประเทศไทยเหมือนกันครับ บางทีอาจจะใช้ชื่อเป็น "Manga Lumpini" แทนก็อาจจะแปลกดีนะครับ ^^


Credit : http://aemaethsaku.wordpress.com/

สุดท้ายพิธีกรรายการหวังว่าจะได้เห็นงานพัฒนาขึ้นเป็นการแข่งขันกันในระดับโลก หรือ World Manga Koshien ในอนาคตต่อๆ ไป

ปัจจุบันมี Manga ที่แนะนำโลกของนักวาด Manga ให้เป็นที่รู้จักอยู่หลายเรื่อง ตัวอย่างเช่น
1. Mangamichi
2. Moeyo Pen
3. Bakuman

Credit : www.inmotionmagazine.com

Creater 's Interview : "The World of Golden Eggs" - Yoshihoko Dai



The World of Golden Eggs trailer
Credit : zzkk234

เรื่องอื่นๆ - C3XHOBBY 2009 - เป็นการจัดงานเกี่ยวกับงานอดิเรกที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น (Largest Hobby Event in Japan) เป็นงานที่รวม Character, Toy, Robot, และ Cosplay Contest

Credit : http://news.monsterlittle.com

รวมภาพจากงาน C3XHOBBY 2006
Credit : http://kanzaki84.multiply.com/


Credit : http://en.wikipedia.org/

17 กันยายน 2552

Imagine-nation : Learning Games [16/09/09]

Credit : http://interactiondesign.wordpress.com/

Learning Games หรือ Education Games เป็นเกมแนวฝึกสมอง (Brain Training) โดยสร้างมาในหลายๆ รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อฝึกภาษา (Languages), ตัวอักษรคันจิในภาษาญี่ปุ่น (Kanji), การติดต่อสื่อสาร (Communication) หรือแม้แต่การทำอาหาร (Cooking) ก็ตาม โดยเกมแรกที่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเกมแนวทางเพื่อการเรียนรู้ คือ เกม Brain Age ซึ่งเริ่มออกวางจำหน่ายในปี 2005 ด้วยคำขวัญประจำเกมว่า "Good for the Brain" โดยผู้จัดจำหน่ายคนหนึ่งในอากิบาฮาระ ให้ข้อมูลว่า กลุ่มที่ซื้อเกมนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยรุ่นอายุ 15 ปีขึ้นไป และมักจะมีผู้ปกครองเป็นผู้ที่ซื้อให้

เกม "Brain Age" [NDS] เป็นเกมจะทดสอบเพื่อบอกอายุของสมองของผู้เล่น (Age of your Brain) โดยได้รับคำชื่นชมอย่างมาก ในส่วนที่เป็นเกมที่เล่นได้ง่าย จึงรูปแบบของนันทนาการที่ดีสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ (Good Recreation) ส่งผลให้สามารถเล่นได้แม้ผู้ที่ไม่เคยเล่นเกมมาก่อนเลย และบ่อยครั้งทำให้เป็นเหตุผลที่ผู้ซื้อได้ใช้ เป็นบันไดก้าวแรกในการซื้อเครื่อง Nintendo DS (NDS) เป็นการช่วยสร้างกลุ่มผู้เล่นของเครื่อง NDS โดยตรง ก่อนที่จะมีการซื้อเกมอื่นๆ ตามมาในภายหลัง นอกจากนี้การที่อยู่บนเครื่อง NDS ก็ยังช่วยให้ผู้เล่นสามารถหยิบขึ้นมาเล่นได้ในเวลาว่าง ซึ่งสะดวกอย่างมาก

Learning Games อื่นๆ นอกจาก Brain Age
1. Rittai Picross
2. Unou no Tatsujin Soukai Machigai Musuem 2
3. Lucky Star Moe-drill - เป็นเกมฝึกสมองที่ทำให้รูปแบบของลักกี้สตาร์ โดยทำให้มีความโมเอะอย่างมาก
4. DS Bimoji Training

ผู้ให้สัมภาษณ์ในรายการได้แนะนำว่า Learning Games นั้นมักมีรูปแบบที่มีการรวม Minigames จำนวนมากเอาไว้ด้วยกัน และยังถือว่าอยู่ในช่วงที่กำลังพัฒนา เหมือนสมัยเกม Role Playing Game (RPG) ในสมัยแรกๆ ที่เริ่มจาก Dragon Quest (DQ) แล้วค่อยๆ มีการผสมผสานกับเกมแนวอื่นๆ โดยปัจจุบันบางเกมก็เหมือนเป็น Learning Games ที่อยู่แค่ที่ขอบๆ ของแนวทางนี้ บางเกมก็เป็นเพียงเกมที่เกาะกระแสมาเท่านั้น สำหรับบางเกมจริงๆ ที่สามารถนำเสนอแนวความคิดของ Learning Games ออกมาได้อย่างน่าสนใจ และเขามองว่าอนาคต Learning Games จะมีรูปแบบที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น (Rich in play styles) และสามารถพัฒนาประสิทธิภาพให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปกว่าปัจจุบันอีกมาก (More Effective)

ที่บริษัท GAKKEN คุณ Takashi Tamura ได้แนะนำว่า Learning Games ก็จะคล้ายกับเกมที่มุ่งทำคะแนนให้สูงขึ้นเรื่อยๆ (Higher Scroes) หรือเป็นเกมที่ให้ผู้เล่นทำตามรูปแบบที่กำหนดไว้ โดยผู้เล่นจะเกิดความอยากรู้อยากเห็นในการเรียนรู้ผ่านการเล่นเกม (Mental Curiosity)

Credit : http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kunjae

ปัจจุบันมีโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในโอซาก้า (Osaka) ได้ทำการทดสอบแนวการสอนใหม่ๆ ด้วย Learning Games โดยในชั่วโมง Homeroom ซึ่งมี 3 ครั้งในทุกๆ สัปดาห์ จะมีการนำเครื่อง NDS แจกจ่ายให้นักเรียนในระดับประถม 6 เล่นเกม "250manninnokanken" ซึ่งเป็นเกมสำหรับการเรียนรู้ตัวอักษรคันจิโดยเฉพาะ มีการวิเคราะห์ว่านักเรียนสามารถที่จะศึกษาผ่านเครื่อง NDS ได้ง่ายเพราะคุ้นเคยกับเครื่อง NDS ที่มักมีอยู่ที่บ้านอยู่แล้ว และ เกมมีข้อดีที่สำคัญอย่างหนึ่ง คือ เมื่อนักเรียนทำผิดในการสอบ นักเรียนคนนั้นจะได้ทราบความผิดพลาดของตนก็เมื่ออาจารย์ได้ตรวจข้อสอบและคืนกลับให้นักเรียนแล้ว แต่ Learning Games จะตอบข้อผิดพลาดนั้นๆ ในทันที จึงทำให้นักเรียนสามารถพัฒนาความเข้าใจในบทเรียนได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ พวกอาจารย์คิดว่า Learning Games สามารถช่วยให้นักเรียนมีความสนุกสนานในการเรียนวิชาที่ต้องทำซ้ำๆ (Repetitive) เช่น การเรียนคันจิ และการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เป็นต้น

บทความที่เกี่ยวข้อง : Edutainment

Creation 's Interview - SP NAKATEMA ผู้เขียน "B.M.N." (Black Monday Night) เป็นเรื่องแนว Bad Boy Fighting Tournament หรือการแข่งขันต่อสู้ของพวกวัยรุ่นที่จะจัดขึ้นในคืนวันจันทร์ และ "Balance"

- ผู้เขียนต้องการสร้างผลงานที่บอกผู้อ่านถึง "ความหมายของการชกออกไปของหมัดแต่ละหมัด" รวมไปถึงความหมายของการต่อสู้อีกด้วย
- นอกจากนี้ ผู้เขียนยังต้องการสื่อถึงแนวคิดที่ว่า อนาคตข้างหน้านั้นเป็นสิ่งไม่อาจรู้ได้ คนที่รู้อนาคตได้คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นล่ะ ดังนั้นคนทุกคนจึงควรเผชิญหน้ากับท้าทายที่มีเข้ามาในชีวิตที่มีแต่ความไม่แน่นอนของตนเอง อย่ายอมแพ้เพียงเพราะแค่การขาดความสามารถบางอย่างที่จะทำ (Face up challenges in uncertain life)

Topic อื่นๆ
1. Hoshi ni negai wo -Fantastic Cat-
เป็น 3D Animation ที่สร้างมาจาก Doujin ซึ่งมีคุณภาพสูงมาก (Superb Quality) โดยผู้ร่วมสร้างผลงานคนหนึ่ง คือ ROMANoV HiGA เป็นรูปแบบของโลกแฟนตาซีในโลกอนาคต (Fantasy in Future)

Credit : http://en.gigazine.net/

2. Puyopuyo7 (NDS)
เป็นเกมภาคที่ 7 ของเกมปูโยปูโย ซึ่งเล่นโดยการที่เราเรียงปูโยซึ่งมีอยู่ 5 สีให้สีเดียวกันอยู่ด้วยกัน แล้วปูโยจะสลายตัวไป จึงสามรถเล่นได้ง่ายไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ นอกจากนี้สามารถสร้างการทำลายต่อเนื่อง (Combo) ได้ โดยในภาคนี้มีโหมดต่างๆ ให้เล่นมากมาย เช่น Match Mode ซึ่งสามารถเล่นแข่งกันได้ถึง 8 คนเลยทีเดียว

3. Oblivion Island:Haruka and The Magic Mirror
Animation แนวแฟนตาซีที่ใช้เวลาสร้างถึง 4 ปี โดยบริษัทหนึ่งที่ร่วมสร้าง คือ Production I.G. เนื้อเรื่องเป็นการผจญภัยของฮารุกะที่เดินทางไปยังต่างโลกผ่านทางกระจกบานหนึ่ง

Credit : www.japanator.com



Oblivion Island: Haruka and the Magic Mirror - 1st Full Trailer
Credit : TrueCloud9999




Shin Lucky Star Moe Drill Tabidachi: GamePlay
Credit : WickedNinjaStudios



Shin Lucky Star Moe Drill: Einzbern Castle
Credit : Blitzwing01



Hoshi ni negai wo
Credit : AyumiTaoHaruki

Website ที่น่าสนใจอื่นๆ : เนื้อเพลง anime + คำแปล http://writer.dek-d.com/ และ http://aiko-no-heya.exteen.com/

09 กันยายน 2552

Imagine-nation : Personified Anime [09/09/09]

Miracle train ~ welcome to Chuou Line ~
Credit : www.vsmedios.com

"Personified Anime" นั้นถ้าแปลเป็นภาษาไทยตรงตัว คือ "อนิเมะแนวตัวตนสมมุติ" โดย Concept หลักๆ คือ จะเป็นการสมมุติวัตถุ (Object) ให้กลายเป็นตัวละครที่มีชีวิตจิตใจขึ้นมา ทำสิ่งต่างๆ ได้ โดยจะยังคงมีสิ่งที่เชื่อมโยงกับวัตถุที่มานั้น เช่น ถ้าเป็นสาวน้อยที่สมมุติมาจากคอมพิวเตอร์ อย่างเรื่อง "AI think so" ก็จะมีความสามารถในการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ มีความสามารถในการอัพโหลด และดาวน์โหลด ความสามารถในการอ่านข้อมูลจากดิสก์ต่างๆ เป็นต้น

- แนวคิด เรื่องนี้ มาจากพื้นฐานแนวคิดของตะวันออกที่มองว่าสิ่งของต่างๆ มีวิญญาณ เช่น ความเชื่อของญี่ปุ่นว่าสิ่งของที่มีมานานจะกลายเป็นผี หรือเทพได้ ซึ่งในพื้นฐานแนวคิดของตะวันตกจะมองว่าวัตถุนั้นไม่มีชีวิตจิตใจ
- อีกส่วนหนึ่ง มาจากนิสัยของคนบางกลุ่มที่จะตั้งชื่อเล่นให้กับสิ่งของที่ตนเองคุ้นเคย เช่น รถยนต์ บ้าน เป็นต้น หลังจากนั้น บางครั้งเราจะจินตนาการว่าสิ่งนั้นมีชีวิตจิตใจขึ้นมา โดยจะยังคงมีคุณลักษณะเฉพาะตัวของมันเองอยู่ (Original Characteristic)
- เมื่อเราใช้วัตถุหรือสถานที่ที่มีความคุ้นเคยมาเป็นตัวละคร จะทำให้คนดูรู้สึกถึงความคุ้นเคยได้ง่าย และรู้สึกถึงความเกี่ยวข้องของคุณลักษณะต่างๆ ของตัวละครนั้น กับวัตถุต้นแบบ
- ประโยชน์อย่างหนึ่งของ Personified Anime คือ เมื่อผู้ดูได้ทราบข้อมูลบางอย่างจากตัวละครแล้ว มักจะยิ่งไปศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัตถุต้นแบบของตัวละครนั้นมากขึ้นไปอีก

ตัวอย่างของ Animation แนวนี้ (ความคิดเห็นของผู้แปล :: แต่ละอันไอเดียบรรเจิดมากครับไม่รู้คิดเข้าไปได้ยังไงเหมือนกัน เมื่อก่อนมีคอมพิวเตอร์กลายร่างเป็นหญิงสาวก็ว่าแปลกแล้ว แต่นี่กระป๋องน้ำอัดลมเปล่าบ้าง ประเทศบ้าง สถานีรถไฟบ้าง ... จินตนาการสูงส่งจริงๆ ครับ ขอนับถือ)

1. AKIKAN! - เป็น อนิเมชั่น เรื่องราวของความรักของ ผู้ชายคนหนึ่งกับหญิงสาวที่กลายร่างมาจาก "กระป๋องน้ำอัดลมเปล่า" (Empty juice can of melon-soda)

Credit : http://animeworld.moonarmy.eu/


2. Hetalia Axis Powers - เป็น อนิเมชั่น เกี่ยวกับมิตรภาพของเพื่อนพ้อง ที่อุปมาจากลักษณะเฉพาะตัวของประเทศต่างๆ ในยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เช่น ตัวละครชื่อ "อิตาลี" จะมีปู่ชื่อ "โรมัน" ชอบกินพาสต้า มีเพื่อนสนิท ชื่อ "เยอรมัน" กับ "ญี่ปุ่น" (ทั้งสามประเทศลงนามเป็นพันธมิตรกัน ในชื่อกลุ่มอักษะ เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2) เป็นต้น

Credit : www.animepaper.net


Credit : http://ramblinggeek.wordpress.com/


3. Miracle train ~ welcome to Chuou Line ~ - เป็น อนิเมชั่น ที่ใช้สถานีรถไฟในเส้นทางสาย Chuou มาสร้างเป็นตัวละครชายในรูปแบบต่างๆ กัน

Credit : http://metanorn.kokidokom.net/

- ปัจจุบันมีตัวละครหลักๆ อยู่ 5 ตัว เช่น Tokyo Zero,Nakano Riku เป็นต้น
- เป็นกลุ่มผู้หญิงทั้งหมด 4 คน เป็นคนสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ออกมา
- คนหนึ่งในกลุ่มให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องแนวคิดของการสร้างสรรค์ผลงานว่า "ทุกๆ สิ่งใดสามารถที่จะจินตนาการเป็นตัวละครได้" โดยเธอได้ยกตัวอย่างว่า แม้แต่ไฟจราจรที่มีสีแดง สีเหลือง และสีเขียวนั้น ก็สามารถจินตนาการขึ้นเป็นตัวละครได้โดยวางอุปนิสัยให้ตามความหมายของสีในกฎจราจรนั้น
- สุดท้าย คือ เป้าหมายในตอนนี้ของกลุ่มที่จะทำตัวละครให้ครบ 38 ตัว ซึ่งเป็นจำนวนสถานีทั้งหมดบนเส้นทางรถไฟสายชูโอนั่นเอง



Miracle Train Intro DVD Promo 09/08/2009
Credit : SleepSubpuntNL

4. Crayon-tan - ตัวละครหญิง จากดินสอสีเทียน
5. Binchotan - ตัวละครหญิง จากถ่านบินโจ ซึ่งเมื่อนำถ่านชนิดนี้ไปใส่ในข้าวขณะทำการหุงจะทำให้ข้าวมีรสชาติดียิ่งขึ้น

Credit : www.logicalmart.co.uk

Credit : http://media.photobucket.com/

6. Rikei Danshi. - ตัวละครชาย จากธาตุต่างๆ เช่น Silver
7. Ketsuekigata Danshi - ตัวละครชาย จากกรุ๊ปเลือดต่างๆ ทั้ง O, A, B, และ AB

สุดท้ายนี้ ผู้ให้สัมภาษณ์ ได้แนะนำว่า ใน Manga ของเด็กผู้ชายนั้น Personified Anime มักจะเป็นในรูปแบบของความรักระหว่างตัวละครที่เป็นตัวแทนของวัตถุกับเด็กผู้ชาย แต่ใน Manga ของเด็กผู้หญิงนั้นไม่จำเป็น ต้องมีรูปแบบของการเกิดความรักระหว่างตัวละคร แค่มีตัวละครที่มี โมเอะแฟคเตอร์ (Moe Factor) ก็เพียงพอแล้ว

Creator 's Interview : Yosuke Hayashi ทีมผู้สร้าง Ninja Gaiden Sigma, Ninja Gaiden Sigma 2



Ninja Gaiden 2 Trailer [XBOX360]
Credit : FuranHayabusa




. Dirty Pop! [ Axis Powers Hetalia AMV ]
Credit : ManaSutcliff



Axis Powers Hetalia Trailer *Fanmade*
Credit : sirjeran

TOKYO FASHION EXPRESS : The Appeal of Tokyo's Lolita Style [08/09/2009]

Credit : TOKYO FASHION EXPRESS [08/09/2009]

"Lolita" หรือ "โลลิต้า" เป็นรูปแบบหนึ่งของ "Doll-like Fashion" การแต่งกายแบบนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากแนวคิดที่ว่าเด็กผู้หญิงบางส่วนมีความฝันที่จะได้แต่งตัวเหมือน "Princess" (เจ้าหญิง) หรือเหมือน "Doll" (ตุ๊กตา) รูปแบบของการแต่งกายแบบ Lolita มีหลายรูปแบบ ดังตัวอย่างบางส่วนต่อไปนี้

- Sweet Lolita - มักเน้นไปที่สีหวานๆ เช่น สีชมพู หรือ สีขาว เป็นแนวทางที่เน้นให้น่ารักแบบสดใส

Credit : www.elusivevisions.com

- Classical Lolita (Victorian Lolita) - เป็นยึดแนวทางของรูปแบบเก่าสมัยวิคตอเรียเป็นหลัก โทนสีอาจออกไปทางมืดๆ อยู่บ้าง

Credit : www.blackswan.fi

- Punk Lolita - เหมือนเป็นแนวทางที่เน้นความอิสระของผู้แต่งกาย

Credit : www.lolitafashion.org

- Goth-Loli (Lolita with Gothic Cultures) - เป็นแนวทางของ โลลิต้า ที่คนยุโรปมักแต่งกัน โดยมีพื้นฐานของวัฒนธรรมโลลิต้ามาอยู่แล้วในอดีต

Credit : http://sublimenonchalance.wordpress.com/


นอกจากนี้ พวกเธอยังได้นิยามว่า "Kawaii" (คาวาอี๋) มีความหมายในเชิงนามธรรมที่แตกต่างจาก Cute และ Pretty ที่ความหมายว่า "น่ารัก" เหมือนจะเป็นความเข้าใจร่วมกันภายในกลุ่ม ที่จะแบ่งแยกความหมายของคำว่า น่ารัก ออกเป็นหลายๆ รูปแบบ

More Detail about "Lolita" :
1. http://clubs.ntu.edu.sg
2. www.fanplusfriend.com
3. www.lolitafashion.org

02 กันยายน 2552

Imagine-nation : Creator 's Interview Special 2 [02/09/09]

รายการ Imagine-nation ของสัปดาห์นี้ ถือเป็นตอนพิเศษที่รวบรวม Creator 's Interview ของสัปดาห์ที่ผ่านมา จากผู้สร้างสรรค์ผลงานทั้ง Manga, Animation, และ Game จำนวน 10 ท่าน ดังต่อไปในนี้ครับ

1. ROMANoV HiGA (รายละเอียด)
- สร้างสรรค์งานแนว CG Action Anime โดยมีแนวทางของตัวเองเป็นหลัก เท่าที่ฟังดู เหมือนจะสร้างสรรค์ผลงานด้วยตัวคนเดียว เป็นเวลานานถึง 10 ปีแล้ว เนื่องจากเจ้าตัวต้องการงานมีความเป็นอิสระ และต้องการให้งานมีความแตกต่างจากงานของคนอื่นๆ แต่เจ้าตัวก็ยอมรับว่ามันก็เป็นการจำกัดคุณภาพของงานด้วยเช่นเดียวกัน

Credit : http://subatomicbrainfreeze.typepad.com

2. Nizo Yamamoto (รายละเอียด)
- เป็นคนวาดภาพฉากหลังที่มีรายละเอียดสูงมาก จุดที่น่าสนใจในการให้สัมภาษณ์ คือ แนวคิดของการวาดผลงานที่เขามีหลักการในการทำงานว่า "ไม่ว่าภาพนั้นจะยากแค่ไหนก็จะวาดให้เสร็จภายใน 3 วันเท่านั้น เพื่อบังคับให้ตนเองพัฒนาเทคนิคในการวาดภาพเพื่อจะได้ทำงานให้ทันเวลา" แต่เขาก็บอกว่าบางงานก็ง่ายมากขนาดสามารถวาดได้ถึง 3 ภาพใน 1 วันเลยทีเดียว

3. Kotomi Aoki
- เธอไม่ต้องการให้ผู้อ่านสนใจแต่ว่าพระเอกของเรื่องซึ่งป่วยเป็นโรคหัวใจและกำลังจะเสียชีวิตไปนั้น จะรอดหรือเสียชีวิตไปในตอนจบ แต่เธออยากจะให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงความรู้สึกของตัวเอกที่มีต่อคนอื่นๆ ในเรื่องมากกว่า เพราะเธอเชื่อว่าคนทุกคนอย่างไรก็จะต้องเสียชีวิตลงในสักวันหนึ่ง แต่สิ่งที่สำคัญคือ คนแต่ละคนนั้นจะได้ทำสิ่งที่ทำให้ตนเองมีความสุขอย่างเต็มที่แล้วหรือยัง (Fullest doing what you 're joy)

4. Hiroyuki Nakao (รายละเอียด)
- เนื่องจากตัวเขาค่อนข้างมีงบจำกัด วาดภาพก็ไม่เก่ง แต่ก็ยังต้องการสร้างผลงานที่ไม่เหมือนใครขึ้นมา เขาจึงสร้างในแนวทางของ "Livemation" ซึ่งไม่ใช่ทั้ง Movie และ Animation ซึ่งผลงานนั้นก็แสดงความแตกต่างออกมาใน Stream Head และ Train Surfer

Train Surfer
Credit : http://tomosuzuki.com/

5. Lun Lun Yamamoto (รายละเอียด)
- เธอคิดว่า "เนื้อเรื่องที่น่าสนใจ คือ เนื้อเรื่องของชีวิต เมื่อเจอกับปัญหา"
- นอกจากนี้ในมุมมองของเธอ ตัวละครที่น่ารักธรรมดาๆ นั้น น่าเบื่อ แต่เมื่อมีด้านมืดซ่อนอยู่เบื้องหลังความน่ารัก (Darkness behind Cuteness) มันทำให้ตัวละครนั้นน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

6. Satoshi Yoshida
- เขาเชื่อว่า Manga ที่ดีจะต้องแสดงบางสิ่งบางอย่างที่แสดงความเป็นตัวเอง (Personal) ของผู้เขียนออกมา
- นอกจากนี้ Manga นั้น เหมือนกับตั๋วบางอย่างที่มีเพียง 50 % และผู้อ่านจะเหมือนมีตั๋วอีก 50% เมื่อนำมาต่อกันก็จะทำให้เกิดภาพของ Manga ที่สมบูรณ์สำหรับผู้อ่านคนนั้น เขาชื่อว่านักเขียนควรจะวาด Manga เพียงแค่ 50% นั้นไม่ควรมากเกินกว่านั้น (คิดว่าในส่วนนี้คงหมายถึงการที่ไม่อธิบายหรือตีความทุกอย่างที่เกิดใน Manga อย่างสมบูรณ์แต่ควรทิ้งช่องว่างในการเติมความคิดของผู้อ่านเข้ามาบางส่วน เพื่อให้เกิดเรื่องราวที่สมบูรณ์ขึ้นในใจของผู้อ่านนั่นเอง)

7. Kazunari Zusuki
- เกมที่เขาสร้างจะไม่เหมือนเกมทั่วไปที่จะฆ่าศัตรูแล้วก็เดินทางต่อไป แต่เขาต้องการมอบมุมมองที่แตกต่างออกไป นั่นคือ การที่เราสามารถได้รับความช่วยเหลือจากศัตรูได้จากการพูดคุย (Get Enermy by Chating) ซึ่งแนวคิดนี้ส่วนหนึ่งมาจาก หมากรุกของญี่ปุ่น (Shogi) ซึ่งจะมีการกินหมากของฝ่ายตรงข้ามแล้วนำมาเป็นกำลังของตนแทน

8. Kazuma Kujo (รายละเอียด)
- เขาตั้งใจจะสร้างให้เกมของเขามี Level of Freedom หรือ Element of Freedom ในระดับที่สูง โดยวัดจากการสามารถที่จะเลือกสิ่งที่จะทำในเกมได้มากแค่ไหน ไม่ใช่เพียงแค่เลือกว่าจะทำหรือไม่ทำ แต่สามารถเลือกได้ในระดับของรายละเอียดลึกลงไป เช่น เมื่อมีสิ่งที่ให้ตัดสินใจทำแล้วจะทำด้วยความเต็มใจ หรือทำโดยขอสิ่งตอบแทนเป็นการแลกเปลี่ยน



Disaster Day of crisis Gameplay wii
Credit : GamesGotGuts

9. Mohiro Kitoh ผู้เขียนเรื่อง Bokurano และ Narutaru
- ในเรื่อง Bokurano นั้น เขาตั้งใจจะฝืนกฎที่นักเขียนทั่วไปทำตามโดยไม่ได้มีการพูดถึง นั่นคือ "กฎที่ว่าตัวเอกผู้ปกป้องโลกจะไม่ตาย" โดยให้ผู้บังคับหุ่นซึ่งเป็นกลุ่มเพื่อนเด็กๆ จำเป็นต้องเสียสละชีวิตของตนเอง เพื่อปกป้องโลก โดยในเรื่องตัวละครที่เหมือนจะเป็นตัวละครหลักจะค่อยๆ ตายไปทีละคน

10. Koichi Nakamura ผู้สร้างเกม 428
- ต้องการสร้างเกมที่ไม่เคยมีคนสร้างมาก่อน โดยเชื่อว่าเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบันทำให้เกิดมิติของเกมที่ไม่เหมือนในอดีตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเมื่อก่อนเมื่อเราเล่นเกมอย่างมากก็จะมีแค่เพื่อนที่เล่นข้างๆ ไม่กี่คนแต่ในปัจจุบันเราเล่นเกมผ่านระบบออนไลน์ พบเจอคนมากมายในเกม



Imabikisou/428 (Wii) - Japanese Trailer
Credit : planetnintendoit

28 สิงหาคม 2552

เกาะอีสเตอร์ (Easter Island) กับ "หายนะของอารยธรรม"

Credit : http://th.wikipedia.orgCredit : www.skn.ac.th

บทความส่วนใหญ่มาจาก รายการท่องโลกกว้าง ช่อง Thai PBS ฉายเมื่อวันที่ 27/08/2552 เวลา 18:00 - 19:00น. และ เพิ่มรายละเอียดจาก Credit : http://th.wikipedia.org

โดยส่วนใหญ่ เมื่อเราพูดถึงเกาะอีสเตอร์ เรามักจะนึกถึงสิ่งสำคัญอยู่สองอย่าง คือ โมอาย (Moai) และชื่อของเกาะที่เหมือนกับวันอีสเตอร์ซึ่งเป็นวันสำคัญของผู้นับถือศาสนาคริสต์ แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ทราบ คือ ในอดีต เกาะอีสเตอร์ (Easter Island) หรือ อีกชื่อ คือ เกาะราปานุย (Rapa Nui) เคยเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์มากมาก่อน และเคยมีเมืองที่มีคนอยู่นับถึงราว 20,000 คน บนเกาะที่เล็กเพียง 160 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น ทั้งๆ ที่เกาะห่างจากฝั่งประเทศชิลีกว่า 3,600 กิโลเมตร ไปทางทิศตะวันตก เกาะที่ใกล้เกาะอีสเตอร์มากที่สุดอยู่ห่างฝั่งจากถึง 2,000 กิโลเมตรเลยทีเดียว เราสามารถที่จะเล่าความพิเศษและความเป็นมาเป็นไปของเกาะ อารยธรรม และหายนะได้ดังนี้

1. เกาะเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟใต้ทะเล เมื่อนับล้านปีมาแล้ว โดยการระเบิดทำให้เกาะเกิดโพรงหินจำนวนมาก เป็นถ้ำใต้ดินทั้งบนบก และในทะเล

2. เวลาผ่านธรรมชาติบนเกาะเกิดขึ้นอย่างเป็นเอกเทศ เพราะห่างไกลจากเกาะอื่นๆ โดยมีต้นปาล์มขนาดใหญ่ขึ้นอยู่เต็มเกาะ และมีพืชเล็กๆ อาศัยร่มเงาของต้นปาล์ม เติบโตขึ้นเป็นจำนวนมาก เกิดเป็นป่าและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ขึ้นบนเกาะ

3. การเดินทางของ ชาวโพลิเนเชียน (Polynesian) ซึ่งถือเป็นยอดนักเดินเรือในสมัยโบราณ เพราะสามารถอาศัยเพียงเรือที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก เดินทางนับพันกิโลเมตร ไปตั้งรกรากบนเกาะต่างๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกได้ ก่อนโคลัมบัสนับพันปี

4. ผู้อพยพกลุ่มหนึ่งพบและได้นำเรือขึ้นเกาะ พร้อมเมล็ดพันธุ์ของพืช ไก่ หมู และสัตว์ต่างๆ ที่นำมากับเรือด้วย เพื่อรับประกันถึงสัตว์ที่สามารถนำไปใช้เป็นแหล่งอาหารได้เมื่อพบเกาะที่ยังไม่มีผู้อยู่อาศัย โดยคาดว่าชุมชนก่อตั้งจากคนเพียงไม่กี่คน

5. ชาวเกาะเริ่มเพิ่มจำนวนขึ้น เป็นผลมาจากที่สามารถทำการเกษตรได้ผลดีจากดินภูเขาไฟ อารยธรรมที่เกิดขึ้นไม่เพียงเฉพาะเรื่องของโมอายเท่านั้น แต่มีการพบร่องรอยของบ้านที่มีโครงสร้างซับซ้อน แต่พบว่าในช่วงแรกนี้ ชาวเกาะไม่ค่อยจะมีอาวุธ ซึ่งคงเป็นเพราะไม่มีศัตรู และไม่มีสัตว์ใหญ่ที่ต้องใช้อาวุธในการล่า

6. อารยธรรมขึ้นสู่จุดสูงสุด มีประชากรบนเกาะถึง 20,000 คน มีการแกะสลักโมอายจากแหล่งหินบนเกาะ โดยมีการแข่งขันกันของกลุ่มต่างๆ บนเกาะ เพื่อแสดงถึงอำนาจ และบารมี ทำให้โมอายค่อยๆ ใหญ่และสูงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยโมอายทั่วไปจะสูงประมาณตึก 3 ชั้น และมีโมอายที่คาดว่าถ้าแกะสลักสำเร็จจะสูงถึงตึก 7 ชั้นเลยทีเดียว

7. เกาะเริ่มเกิดปัญหาเมื่อต้นปาล์มยักษ์เริ่มสูญพันธุ์ไปจากเกาะ ด้วยสาเหตุต่างๆ คือ
  • ความต้องการพื้นที่ในการทำการเกษตร - เพราะเมื่อมีคนมากขึ้น ก็จำเป็นต้องมีอาหารมากขึ้น

  • การขนย้ายโมอาย - เนื่องจากไม่มีเทคโนโลยีที่ช่วยในการขนย้ายโมอายจากแหล่งหินไปยังที่ตั้ง จึงจำเป็นต้องใช้ท่อนไม้รองระหว่างโมอายที่แกะสลักเสร็จแล้ว กับพื้นดิน แล้วใช้คนจำนวนมากชักลากไป วิธีการนี้ทำให้ท่อนไม้ที่ใช้เสียหายและต้องตัดต้นไม้มาใช้ทดแทนไปเป็นจำนวนมาก

  • หนูทำลายเมล็ดปาล์มยักษ์ - จากการที่มีร่องรอยของการกัดแทะของหนูที่เมล็ดของปาล์มยักษ์ ที่พบในถ้ำใต้พื้นดินเกาะ คาดว่าน่าจะมีหนูติดมากับเรือของผู้อพยพมาที่เกาะ และหนูมีความสามารถเพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อบนเกาะไม่มีศัตรูตามธรรมชาติของมัน เมื่อผลปาล์มที่มีรสหวานถูกหนูกัดกินเมล็ดไปเรื่อยๆ ก็จะส่งผลให้ต้นปาล์มรุ่นใหม่ๆ ไม่สามารถที่จะเติบโตขึ้นมาได้

8. ความสมดุลของธรรมชาติบนเกาะล่มสลาย เมื่อเกาะขาดต้นปาล์มยักษ์ ที่ช่วยป้องกันลมและเกลือจากทะเล ต้นไม้ขนาดเล็กๆ ซึ่งเดิมเคยอาศัยได้รับการปกป้องจากปาล์มยักษ์นี้ จึงไม่สามารถที่จะอยู่รอดได้ นั่นรวมไปถึง พืชไร่ พืชสวนของชาวเกาะที่ล้มตายจำนวนมาก และเมื่อขาดต้นปาล์มยักษ์ไป แหล่งน้ำจืดที่เดิมมีอยู่น้อยอยู่แล้วบนเกาะก็เหือดแห้งลงไปจนเกือบหมดสิ้น นอกเหนือจากนั้น น้ำฝนยังชะล้าดินบนเกาะที่ขาดพืชคลุมดินจนดินขาดความอุดมสมบูณ์ลงไปอีก จนเกาะเกิดสภาพการขาดแคลนอาหารอย่างมาก

9. ไม่สามารถหาอาหารจากทะเลได้ เนื่องจากเกาะอีสเตอร์ไม่เหมือนเกาะอื่นๆ ส่วนใหญ่ในทะเลแปซิฟิกที่มักจะมีแนวปะการัง ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลจำนวนมาก ดังนั้นจึงทำให้คนบนเกาะอีสเตอร์ไม่สามารถจับสัตว์ทะเลเป็นอาหารได้จากใกล้ๆ เกาะ พวกเขาจำเป็นต้องใช้เรือเพื่อออกไปจับปลาที่ไกลออกไปจากชายฝั่ง แต่ต้นไม้ใหญ่บนเกาะตายหมดแล้ว ก็ไม่มีไม้ที่สามารถนำมาขุดทำเรือแคนนูได้ จึงยิ่งเพิ่มความอดอยากในเกาะขึ้นไปอีก

10. ภายหลังชาวเกาะต้องละทิ้งเมืองของตนไปอาศัยอยู่ในถ้ำแทน อารยธรรมที่มีเกิดการล่มสลาย ชาวเกาะต้องอาศัยโพรงในถ้ำต่างๆ ปลูกพืชที่เป็นอาหาร อาศัยแหล่งน้ำจืดที่ขังอยู่ในโพรงใต้ดินซึ่งมีอยู่น้อยนิด ชาวเมืองที่เดิมเคยเกื้อกูลกัน ก็ต้องกระจายแบ่งเป็นกลุ่มอำนาจและจับอาวุธเข้าสู้กัน เลวร้ายถึงขนาดที่ว่าคาดว่ามีการกินเนื้อมนุษย์กันเองเพื่อความอยู่รอด ชาวเกาะลดลงจาก 20,000 คนไปจนเหลือ 4,000 คน ทั้งหมดนี้ถือได้ว่าเป็น "ความล่มสลายของอารยธรรม" ของเกาะอีสเตอร์ครับ

ดังนั้น ถ้ามองอีกแง่หนึ่งทั้งหมดก็คล้ายจะเป็นโลกย่อส่วนลงมา คือ เมื่ออารยธรรมเฟื่องฟู มนุษย์ทำลายธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง เมื่อถึงวันหนึ่งที่โลกฟื้นฟูตนเองไม่ทัน พวกเราก็จะต้องรับผลกรรมของสิ่งที่ตัวเราทำไว้กับธรรมชาติในที่สุด ผมจึงหวังว่าท่านผู้ที่ได้ทราบข้อมูลเหล่านี้จะได้ช่วยกันรักษาธรรมชาติของโลกกันแม้เพียงเล็กน้อย แต่ถ้าเราช่วยกันก็อาจหลีกเลี่ยงหายนะที่เกิดขึ้นกับโลกได้ครับ

Credit : บทความเกี่ยวกับเกาะอีสเตอร์จากที่อื่นๆ

1. "หมู่เกาะอีสเตอร์" - บทความโดย เจไอ วันที่ 8 ธันวาคม 2548

2. "อารยธรรมล่มสลายที่เกาะอีสเตอร์" - บทความโดยคุณ การะเกด วันที่ 21 เมษายน 2546


ความรู้รอบตัวเล็กน้อย จากรายการท่องโลกกว้าง ช่อง Thai PBS ฉายเมื่อวันที่ 28/08/2552 เวลา 18:00 - 19:00น. - ดินเทราเพรต้า (ไม่รู้สะกดถูกไหมนะครับต้องขออภัยด้วย) เป็นดินที่มนุษย์พัฒนาขึ้น เพื่อใช้ปลูกพืชในป่าอเมซอน ที่ดินมีความเป็นกรดสูง ทำให้ไม่สามารถปลูกพืชได้ โดยนำดินที่มีกรดสูงนั้น มาผสมกับดินเหนียวที่ใช้ทำเครื่องปั้นดินเผา ซากปลา (ซากพืชซากสัตว์) และถ่าน เพราะถ่านมีคุณสมบัติในการดูดซับแร่ธาตุเก็บไว้ในดิน จึงช่วยให้สามารถสร้างพื้นที่ทางการเกษตรในป่าอเมซอนได้เป็นพื้นที่กว้างเท่าประเทศฝรั่งเศสเลยทีเดียว (จากเดิมที่ปลูกไม่ได้เลย) โดยความรู้ในเรื่องอัตราส่วนและวิธีการผสมได้สูญหายไป ปัจจุบันจึงอยู่ในระหว่างการวิจัยเพื่อนำวิธีการนี้ไปช่วยเหลือพื้นดินที่แห้งแล้งในประเทศต่างๆ ครับ (ถ้าเป็นวิธีทั่วไปที่ทั่วโลกใช้กัน คือ ใช้การเผาซากพืชในไร่เพื่อให้กลายเป็นถ่านครับ แต่วิธีนี้มักจะได้เป็นขี้เถ้าเป็นส่วนใหญ่ครับ)

Credit : http://bbs.asiasoft.co.th

26 สิงหาคม 2552

Imagine-nation : Masahito Soda [26/08/09]

Masahito Soda Official Website : www.sodamasahito.jp

เป็นนักเขียนที่มีผลงาน Manga มากมายในหลายแนว เป็นที่ยอมรับและได้รับรางวัลในผลงานด้านต่างๆ ตัวอย่างผลงาน เช่น

1. Subaru [Ballet] - เป็น Manga ที่มีเนื้อเรื่องของเด็กผู้หญิงที่มุ่งหวังจะเป็นนักเต้นบัลเล่ต์ ปัจจุบันกำลังถูกนำไปสร้างเป็นหนังใหญ่ (Large Scale Movie) รู้สึกว่าจะฉายที่ญี่ปุ่นไปแล้วในปีนี้ (ปี 2009)

Subaru [Manga]
Credit : www.amazon.co.jp
Subaru [Movie]
Credit : wwws.warnerbros.co.jp

2. Shakariki [Bicycle Racing] - เป็นแนวการแข่งขันจักรยาน โดยจุดเริ่มต้นมาจาก ในสมัยเด็ก ในเมืองของตัวเอกมีเนินสูงชันที่ไม่สามารถปั่นจักรยานขึ้นไปได้ แต่ในวันที่เพื่อนกำลังจะย้ายบ้านนั่งรถบรรทุกออกไป ตัวเอกได้ฝืนปั่นจักรยานขึ้นเนินชันเพื่อไปลาจากเพื่อนเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อเวลาผ่านไปได้มีผู้ชายอีกคนหนึ่งปั่นขึ้นเนินนั้นได้ นั่นทำให้ตัวเอกเริ่มเข้าสู่วงการแข่งขันจักรยาน

Credit : http://gunplaman.blogspot.com

3. Capeta [Car Racing] (ปี 2003) - เป็นแนวแข่งรถของเด็ก เกี่ยวกับรถที่คล้ายรถโกคาร์ท โดยปัจจุบันมีการทำเป็น Animation

Capeta [Manga]
Credit : http://narutoonblog.blogspot.com
Capeta [Anime]
Credit : http://en.wikipedia.org

4. Megumi No Daigo (ปี 1995) - เป็นแนวชีวิตของนักผจญเพลิง ผู้มีความฝันที่จะสอบเพื่อกลายเป็นหน่วยกู้ภัย เพราะในสมัยเด็กเคยได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัย ขณะเกิดเพลิงไหม้ จึงมุ่งหวังที่จะทำเพื่อได้ช่วยเหลือคนอื่นๆ จากอันตรายต่างๆ

5. Moon [Ballet] - เป็น Manga แนวบัลเล่ต์อีกเรื่องหนึ่งที่ถูกเขียนต่อจาก Subaru

ปัจจุบัน Manga ได้รับความนิยมทั้งในยุโรป เอเชีย และที่อื่นๆ ทั่วโลก โดยผู้ให้สัมภาษณ์ได้กล่าวถึงว่าแนว Manga ของ Mr. Masahito Soda นั้นมักจะเป็น "การนำเสนอชีวิตของอัฉริยะในด้านต่างๆ ที่ยังคงมีจุดบกพร่องบางอย่างอยู่" ส่วนใหญ่ตัวเอกมักจะต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกกดดัน (High Press) ซึ่งทำให้เรื่องมีพลัง มีความรู้สึกเจ็บปวด และมีชีวิต อารมณ์ ความรู้สึกต่างๆ นอกเหนือจากนึ้ยังได้กล่าวถึง เรื่องที่ Mr. Masahito Soda ได้เดินทางไปที่เยอรมัน และมองไปที่ถนนยังจินตนาการถึงภาพที่ซูบารุ (ตัวเอกจากเรื่อง Subaru) เดินอยู่ที่ถนนในเยอรมันนั้นเอง

หลังจากนั้นได้ไปสัมภาษณ์ Mr. Masahito Soda ตัวจริง

- ในห้องทำงานที่ชั้นใต้ดิน จะมีกระจกบานใหญ่มองเห็นรถซูเปอร์คาร์ที่คล้ายจะใช้ในการแข่งขันประเภทแรลลี่อยู่ 1 คัน (ไม่ทราบว่าเป็นโรงรถแบบติดกระจกรอบหรือว่าแค่ของโชว์เฉยๆ เหมือนกันครับสำหรับส่วนนี้)
- ส่วนอื่นๆ ของห้องทำงาน เป็นชั้นวางหนังสืออ้างอิงจำนวนมาก (ดูคร่าวๆ ด้วยตาก็คิดว่าน่าจะมากกว่า 300 เล่มขึ้นไป) และมีชั้นวางภาพที่เคยวาดไว้ในอดีตแบบกองรวมกันค่อนข้างหายาก แต่อาจารย์ท่านก็บอกแบบอารมณ์ดีว่า ปรกติท่านจะให้ผู้ช่วยหาให้
- ในห้องทำงานส่วนตัวจะมีโต๊ะทำงาน 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งเป็นงาน Capeta ติดกระจกมองซูเปอร์คาร์ อีกฝั่งหนึ่งเป็นโต๊ะงาน Subaru ท่านเล่าว่าบางครั้งก็ยุ่งถึงขนาดต้องทำงาน 2 โต๊ะนี้สลับกันไปมาเลยทีเดียว
- การวาดงานของท่าน เป็นแบบร่างด้วยดินสอก่อน (คิดว่าเป็นดินสอกด) หลังจากนั้นลงรายละเอียดด้วย G-Pen เท่าที่ดูท่านจะไม่ค่อยได้ใช้ Computer ในการทำงาน Manga เท่าไรนัก เพราะบนโต๊ะทำงานก็ไม่มี Computer
- ท่านเล่าว่า งานส่วนใหญ่จะใช้เวลาไปกับงานที่เรียกว่า "Name" Process คือ งานที่ระบุว่าคำพูดอยู่ยังไง แบ่งช่องอย่างไร ตัวละครวางตัวแบบไหน เป็นเวลา 70% และที่เหลืออีก 30% ถึงจะเป็นงานส่วน Artwork (หรือถ้ามองอีกแบบก็คือ ใช้เวลาวางแผน 7 ส่วน และใช้เวลาวาดภาพ 3 ส่วน)
- นอกเหนือจากนั้น ในการคิด Story ของ Manga เรื่องต่างๆ ท่านจะจินตนาการว่าตัวละครใดจะพูดออกมาแบบใด เมื่อจินตนาการมากๆ เป็นเวลาหลายปีติดต่อกัน ท่านก็รู้สึกว่า "ตัวละครนั้นเหมือนจะกลายเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง"


เรื่องอื่นๆ กับ Japanese Ganiga Topic ดังนี้

1. TeleshibaiWii - เกมเล่นโดยใช้ไมค์ของเครื่อง Wii รูปแบบเกมจะเป็นการพูดผ่านไมค์ลักษณะเป็นเรื่องเกี่ยวกับนิทาน โดยมุ่งเป้าหมายไปที่ผู้เล่นที่เป็นเด็ก และครอบครัว คล้ายๆ การเล่านิทานให้เด็กฟังของพ่อแม่
2. Kyoufu Taikan THE JUON - เกม จูออน เป็นเกมผจญภัยเพื่อการไขปริศนาของวิญญาณ
3. Moe Fes in Washimiya 2009 - เทศกาล "โมเอะ" ประจำปี 2009 ที่ Washimiya โดยไฮไลท์ของปีนี้ อยู่ที่ Lucky Star ครับ



Lucky Star opening
Credit : BaldoX



Motteke! Sailor Fuku! - Lucky Star Full Opening
Credit : Nitoheifeline