25 พฤศจิกายน 2552

หมู,ความเครียด,และการหย่านม

Credit : http://pictoriumfever.blogspot.com

วันนี้ได้ดูรายการท่องโลกกว้างของช่อง Thai PBS เป็น สารคดีเกี่ยวกับ "หมู" ในช่วงแรกก็เป็นเรื่องทั่วๆ ไปที่คิดว่าคงจะนำมาใช้ประโยชน์ได้ไม่มากนัก แต่ที่สะดุดใจจนต้องนำมาเขียนบทความก็คือในส่วนของการทดลองที่เกี่ยวกับ "การหย่านม" ของลูกหมูก่อนกำหนด (ลูกหมูในธรรมชาติจะกินนมถึงประมาณสัปดาห์ที่ 12 แล้วหลังจากแม่หมูจึงเริ่มให้ลูกหมูกินอาหารที่แข็ง แต่ในการทดลองจะใช้หมูที่หย่านมก่อน 3 สัปดาห์ซึ่งมาตรฐานของฟาร์มทั่วไปจะแยกลูกหมูจากแม่หมูให้หย่านมเมื่อเกิดได้ประมาณ 2 สัปดาห์)

""การทดลองหย่านมลูกหมูก่อนเวลา" นี้ ไม่ได้ทดลองในแง่ของการเติบโตทางร่างกายภายนอก แต่เป็นการทดลองดูผลกระทบของความเครียดที่เกิดขึ้นกับลูกหมู ที่มีผลต่อการพัฒนาการทางสมองและอารมณ์ โดยหลักๆ แบ่งการทดลองเป็น 3 ส่วน คือ

1. "ทดลองผลกระทบทางอารมณ์" - โดยเมื่อนำลูกหมูที่หย่านมเร็ว มาอยู่ร่วมกันกับลูกหมูตัวอื่นที่ไม่ใช่พี่น้องของมัน ปรากฎว่า มันมีความก้าวร้าวอย่างมาก และเข้าต่อสู้กับลูกหมูตัวอื่นอย่างรวดเร็ว โดยพยายามกัดที่แก้มและหู

2. "ทดสอบความจิตใจ" - เป็นการนำลูกหมูไปเดินบนโต๊ะที่สูงจากพื้นราว 1 เมตร ซึ่งสำหรับลูกหมูที่สูงไม่เกิน 10 เซนติเมตรก็คงถือว่าสูงมากเหมือนกัน ซึ่งมี 2 ส่วน โดยส่วนหนึ่งจะมีคอกพลาสติกใสกั้นทั้ง 3 ด้าน และอีกด้านหนึ่งจะไม่มีสิ่งใดกั้นเลย แล้วปล่อยให้หมูเดินอย่างอิสระ ปรากฎว่า
- ลูกหมูที่หย่านมเร็วเดินเข้าไปในส่วนของคอกและไม่กล้าที่เดินออกจากคอกเลย
- แต่ลูกหมูที่หย่านมตามธรรมชาติกลับไม่กลัวและเดินสำรวจไปทั่วโต๊ะ

3. "ทดสอบสมองและความสามารในการจดจำ" - เป็นการใช้สระน้ำทรงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 เมตรมีน้ำลึกพอที่ลูกหมูจำเป็นต้องว่ายน้ำตลอดเวลาไม่งั้นจะจมน้ำ และไม่สามารถไต่ขึ้นที่ขอบสระน้ำได้ แต่ที่ด้านหนึ่งของสระน้ำมีการนำกล่องไปวางไว้ในน้ำเป็นแท่นยืนซึ่งถ้าหมูหาเจอจะสามารถยืนเฉยๆ ได้ โดยไม่ต้องว่ายน้ำ
- การทดสอบกับที่ลูกหมูที่หย่านมตามธรรมชาติพบว่า ในครั้งแรก มันค่อยๆ ว่ายน้ำสำรวจไปรอบๆ สระ จนเจอแท่นยืน และขึ้นไปยืนได้อย่างง่ายดาย ต่อมาเราก็นำมันขึ้นจากสระพักไว้ราว 10 นาที ก่อนจะทดสอบแบบเดิม ปรากฎว่าในการทดสอบทุกครั้งหลังจากนั้น เมื่อมันลงน้ำ มันจะว่ายน้ำตรงไปยังแท่นยืนอย่างรวดเร็ว
- แต่ลูกหมูที่หย่านมเร็ว เรากลับพบว่าเมื่อมันลงน้ำ มันหวาดกลัวอย่างมากและว่ายน้ำอย่างสะเปะสะปะ จนถึงแม้จะอยู่ใกล้แท่นยืนก็กลับไม่รู้สึกถึงแท่นยืนได้ และเมื่อเราทดสอบแบบเดิมซ้ำ เราก็พบว่าเสมือนมันไม่ได้เรียนรู้จากการทดสอบครั้งแรกเท่าใดนัก

ทั้งหมดที่ว่ามานี้ก็มิได้ชี้ชัดถึงประโยชน์การให้เด็กได้กินนมแม่จนพ้นอายุช่วงหนึ่ง (ถ้าผมจำไม่ผิดก็คือควรให้กินถึงเมื่อเด็กอายุ 12 เดือน) แต่ผมก็เชื่อว่าการให้เด็กได้กินนมและอยู่กับแม่อย่างใกล้ชิดในช่วงเด็กจะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีไม่ว่าจะทางร่างกาย ทางสมอง รวมไปถึงทางอารมณ์อีกด้วยครับ

เกร็ดอื่นๆ เกี่ยวกับหมูที่น่าสนใจ
1. หมูเป็นสัตว์ไม่กี่ชนิดที่มีฟันมาตั้งแต่เกิด โดยในเรียกว่า "ฟันเจาะน้ำนม" (ถ้าจำผิดก็ขออภัยครับ) ซึ่งฟันนี้จะมีความแหลมคมอย่างมาก
2. ใน 2 ชั่วโมงแรกลูกหมูที่เพิ่งเกิดจะต้องทำหลายๆ สิ่งด้วยตัวเองไม่ว่าจะทำความสะอาดคราบเหนียวที่ติดตัว, ตัดสายรก, เดินให้ได้ด้วยตัวเองเพื่อไปดูดนมของแม่หมู
3. มีการทดลองแปลกๆ เกี่ยวกับลูกหมู โดยทำการเขียนหมายเลขที่ตัวลูกหมูเพื่อระบุว่าลูกหมูตัวไหนดูนมที่เต้านมไหนของแม่หมู แล้วจับลูกหมูออกมาห่างๆ แล้วค่อยปล่อยกลับให้ไปดูดนมปรากฎว่า พวกมันกลับไปดูดที่เต้านมเดิมของตัวเองโดยไม่ได้สนใจไปแย่งเต้านมของลูกหมูตัวอื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าแปลกใจจริงๆ
4. อวัยวะภายในของหมูคล้ายคนมาก ถ้าไม่นับในกลุ่มของลิงแล้ว เช่นในปัจจุบันอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้รักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจจะต้องทดสอบกับหัวใจหมูจนแน่ใจก่อนว่าปลอดภัยจึงจะสามารถนำมาใช้กับคนได้
5. ลูกหมูจะโตจนมีน้ำหนักประมาณ 100 เท่าของตอนเกิดในเวลาประมาณ 6 เดือน ซึ่งถ้าเปรียบเทียบเป็นเด็กที่คลอดมีน้ำหนัก 8 ปอนด์ (ประมาณ 4 กิโลกรัม) จะมีน้ำหนัก 800 ปอนด์ (ประมาณ 400 กิโลกรัม) ตอนอายุ 6 เดือน ^^"
6. ปัจจุบันมีประชากรหมูในโลกประมาณ 1,000 ล้านตัว โดยมีอยู่ในหลายๆ สถานที่ไม่ว่าจะในฟาร์ม ในป่า หรือในบ้านของคนเป็นสัตว์เลี้ยงก็ตาม

Credit : www.wallcoo.net

21 พฤศจิกายน 2552

หนึ่งใน Music Video ที่ดีที่สุดตลอดกาลของผม



Britney Spears - Sometimes
[OFFICIAL MUSIC VIDEO HD]
Credit : Devastationity

แม้มันจะเก่ามากแล้ว แต่ความสดใสของมิวสิควิดีโอก็ทำให้รู้สึกชอบในเกือบทุกครั้งที่ดูครับ ^_^

05 พฤศจิกายน 2552

Imagine-nation : LEVEL-5 [04/11/09]

เป็นบริษัทผลิตเกม (Level-5 Inc.) สำนักงานใหญ่อยู่ที่ฟุกุโอกะ (Fukuoka) แถบคิวชู มีผลงานเกมที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น
1. Ninokuni - เป็นแนว RPG ที่ทำร่วมกับ Studio Ghibli

Credit : www.zentendo.com

2. Inazuma Eleven 2 - ภายหลังจากภาคแรกในปี 2008 โดยเป็นแนวคิดผสมผสานระหว่างเกม RPG กับฟุตบอล โดยภาคแรกออกในปี 2008 จุดพิเศษอย่างหนึ่งของเกม คือ หลังจากแข่งชนะคู่แข่งแล้วสามารถที่จะชวนนักเตะของคู่แข่งให้เข้ามาร่วมทีมของตนเองได้อีกด้วย จึงสามารถจัดทีมที่แตกต่างกันออกไปได้มากมาย

Credit : www.wii-brasil.com

3. "Professor Layton" Series - ปัจจุบันมีออกมาทั้งหมด 3 ภาค ลงใน Nintendo DS (NDS) โดยปัจจุบันมีการนำไปเผยแพร่ใน Manga และ Anime แล้ว

Professor Layton and The Diabolical Box
Credit : www.tumragame.com

4. Dragon Quest VIII - เป็นงานใหญ่ที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของบริษัท (Big Turning Point) ซึ่งยังถือว่าเป็นบริษัทผลิตเกมขนาดเล็กอยู่ในปี 2004 โดยถือเป็นภาคแรกของเกมในซีรี่ย์ Dragon Quest (DQ) ที่ทำเป็น 3D และมีบางส่วนเป็นอนิเมชั่น (Anime Like) ทำให้เกมดราก้อนเควสภาคนี้เป็นภาคที่ทำยอดขายได้สูงสุดเมื่อเทียบกับอีก 7 ภาคที่ผ่านมา นอกเหนือจากนี้ภายหลังบริษัทยังคงได้รับความไว้วางใจในการสร้าง Dragon Quest IX ซึ่งออกในปี 2009 (ปีนี้) ลงใน NDS อีกด้วย
5. Dark Cloud & Dark Cloud 2 - เป็นเกมที่สร้างชื่อให้กับบริษัทในตลาดทั้งในญี่ปุ่นและยุโรป เนื่องจากเป็นเกม 3D RPG ที่ทำลง Play Station 2 (PS2) โดยภาคแรกสร้างเมื่อปี 2000

ในช่วงแรก บริษัท LEVEL-5 ผลิตเกมในแนว RPG ที่เน้นการผสมผสานไอเดียต่างๆ มากมาย (Various Idea) โดยเน้นในแนวคิดที่เป็นการรวบรวมมินิเกมมากมายไว้ภายในเกม ภายหลังจากการขึ้นไปทำโปรเจคใหญ่อย่าง DQ VIII ก็ลงจากการสร้างเกมเกาะกระแสแบรนด์ที่ดังแล้ว (Bandwagon) อย่างในซีรี่ย์ DQ มาสร้างโปรเจคของตนเองอย่าง Professor Layton โดยมีแนวคิดผสมผสานจากกระแสของเกมดังอย่าง "Brain Age" จึงนำแนวคิดที่ผสมผสานโดยการสร้างเกมในแนวฝึกสมอง (Brain Training หรือแนว Puzzle) ให้มีเนื้อเรื่องที่เข้มข้น (Storyline) โดยเกมถือเป็นเกมผจญภัยแนวแฟนตาซี ( Fantasy Adventure) โดยมีภาพของโลกภายในเกมแบบหนังสือภาพ (Picture Book)

สำหรับการที่ไม่ตั้งบริษัทไว้ที่โตเกียวนั้น ทางบริษัทก็ยอมรับว่าการตั้งไว้ที่ทางฟุกุโอกะก็ทำให้ไม่ได้รับความสะดวกอยู่บ้าง แต่เขาเชื่อว่าบริษัทจะมีส่วนทำให้ฟุกุโอกะก้าวไปเป็นฮอลิวูดแห่งเกม (Hollywood of Game) และเป็นศูนย์กลางแห่งความคิดสร้างสรรค์ได้ (Center of Creative) นอกเหนือจากนี้ ผู้เชื่ยวชาญด้านเกมเชื่อว่าการที่เขาตั้งบริษัทไว้ในฟุกุโอกะนั้นถือเป็นจุดแข็งอย่างหนึ่งของบริษัท เนื่องจากคนในแต่ละพื้นที่นั้นจะมีแนวความคิดที่แตกต่างกัน (Strong Original / Local Idea)

สุดท้ายนี้ ทางบริษัทหวังว่าจะสามารถสร้างเกมที่ให้ความบันเทิง และสร้างเซอร์ไพรสให้กับผู้เล่นได้ พร้อมทั้งแนะนำว่าจุดสำคัญในการทำงานของคนภายในบริษัท คือ ให้พูดคุยทำความเข้าใจกันมากกว่าการใช้เวลาทำงาน (Communication more than Work)

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับบริษัท LEVEL-5
1. Akihiro Hino แนวทางสู่ความสำเร็จของ Level-5
2. Notable Japanese Developers : LEVEL-5

Creator's Interview : "Kazumi Yamada"
- เป็นผู้สร้างอนิเมชั่นที่เน้นสร้างงานโดยผสมผสานภาพคอมพิวเตอร์กราฟฟิค (CG) เข้ากับเสียงเพลง (Music)
1. Monster Boots - เป็นผลงานหนังสั้นที่สร้างชื่อให้เขาในปี 2006
2. Red Bicycle
3. Kikurage

เขาเชื่อว่าทั้ง ภาพคอมพิวเตอร์กราฟฟิค และ เสียงดนตรี เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่เหมือนกัน (CG and Music are a part of same thing) นอกจากนี้การที่สร้างสรรค์ผลงานทั้งสองออกมาในรูปแบบนี้ทำให้ทั้งสองส่งเสริมซึ่งกันและกัน (Promote) โดยมีเป้าหมายของผู้สร้าง คือ ต้องการให้งานของเขาสร้างผลกระทบ (Impact) และความแปลกใจ (Surprise) ให้กับผู้คน

เรื่องอื่นๆ
1. Mai Mai Miracle - สร้างโดย NobuKo Takagi เป็นเรื่องชีวิตของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ในชนบทของญี่ปุ่นในช่วงปี 1955 ซึ่งค่อยเติบโตอย่างช้าๆ ในโลกที่เงียบสงบ (Calm and Peace) พร้อมกับเพื่อนของเธอ
2. Samurai Warrior 3 (Sangoku Musou 3)