25 กรกฎาคม 2552

Colosseum (สนามกีฬาโคลอสเซียม)

ภาพจาก : Wikipedia

  1. สร้างเมื่อประมาณ 2000 ปีก่อน (เปิดใช้ครั้งแรกเมื่อปีค.ศ. 80) สร้างโดยจักรพรรดิ Vespasian
  2. เป้าหมายหลักในการสร้าง Colosseum คือ เพื่อเอาใจประชาชนของโรม เนื่องจากจักรพรรดิองค์ก่อนหน้า คือ จักรพรรดิ Nero ทรงใช้เงินในท้องพระคลัง และเก็บภาษีจากประชาชนในโรมไปเป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างวัง และสิ่งก่อสร้างส่วนพระองค์มากมาย จนโดนโค่นล้มโดยประชาชนในโรมนั่นเอง
  3. คนโรมันในสมัยนั้นมี 2 สิ่งเป็นพื้นฐาน คือ อาหาร และการแสดง ดังนั้น จักรพรรดิ Vespasian จึงตัดสินใจสร้าง Colossem ให้เป็นโรงมหรสพที่ยิ่งใหญ่ (ขณะนั้นโรมยังไม่มีโรงมหรสพที่ใหญ่ทัดเทียมกับเมืองอื่นๆ ทั้งๆ ที่เป็นเมืองหลวงของ Roman Empire)

  4. ภาพจาก : http://digitalphotographer.com.ph/ ที่นี่มีภาพสวยๆ มากมายของ Italy ผมอยากแนะนำให้ลองเข้าไปดูสักครั้งนะครับ ^^

  5. รายละเอียดของ Colosseum เป็นอาคารสูงประมาณ 50 เมตร ความจุ 50,000 คน (แต่เคยมีบันทึกว่าเคยมีคนเข้าชมสูงสุดถึง 80,000 กว่าคน) โดยตั้งใจให้เป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่กว่า Pyramid แต่ติดปัญหาใหญ่ๆ อยู่ 2 อย่าง ดังนี้
  6. Problem I: ไม่มีพื้นที่ที่เหมาะสม ซึ่งหลังจากเปรียบเทียบในหลายพื้นที่แล้วจักรพรรดิ Vespasian จึงตัดสินใจถมทะเลสาบขนาด 5 สนามฟุตบอลให้เป็นที่ราบ ซึ่งต้องขุดคูขนาดใหญ่เพื่อทดน้ำออกไปลงแม่น้ำที่ห่างไปราว 1 กิโลเมตร (เป็นงานใหญ่มากๆ สำหรับสมัย 2,000 ปีก่อน เพราะสมัยนั้นคุณไม่มีเครื่องสูบน้ำนะครับ)
  7. Problem II: ไม่มีเงินสร้าง เนื่องจากเงินในท้องพระคลังร่อยหรอ (จักรพรรดิ Nero ใช้หมด) และไม่สามารถเก็บภาษีจำนวนมากได้ (ประชาชนจะไม่พอใจอย่างมาก) บังเอิญสมัยนั้นมีเมืองแห่งหนึ่ง ซึ่งมีวัดที่ร่ำรวยมาก และขณะนั้นเมืองถูกปิดล้อมโดยอาณาจักรโรมันอยู่พอดี จึงมีคำสั่งให้โจมตีเมืองแห่งนั้น เมืองแห่งนั้น คือ เยรูซาเลม (Jerusalem) เมื่อประมาณปีค.ศ.ที่ 70 ซึ่งก็ได้รับชัยชนะอย่างรวดเร็ว และลำเลียงทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลจากวัดในเยรูซาเลม พร้อมทาสชาวยิวจำนวน 30,000 คน ซึ่งคาดว่าทาสทั้งหมดถูกนำไปขายที่โรม โดยมิได้นำไปช่วยสร้าง Colosseum เนื่องจาก Colosseum จำเป็นต้องใช้ช่างฝีมือเฉพาะทางในการก่อสร้าง และจำเป็นต้องรีบก่อสร้างให้เสร็จโดยเร็ว เนื่องจากจักรพรรดิ Vespasian เกรงว่าตนจะถูกปลดจากตำแหน่งเนื่องจากประชาชนไม่พอใจ
  8. ขณะสร้างมีการคำนวณรายละเอียดของส่วนประกอบหลายๆ อย่างเช่น ทางระบายน้ำต้องทำมุม 2.5% ตลอดแนว เพราะถ้าน้อยกว่านี้น้ำจะไม่ไหล แต่ถ้ามากกว่านี้น้ำจะไหลย้อนกลับไปเจิงนองพื้นของ Colosseum แทน
  9. คนโรมันเป็นคนที่มีระเบียบวินัยสูงมาก และมีสหภาพแรงงานแล้วในขณะนั้น
  10. การสร้าง Colosseum จะสร้างซุ้มโค้งจำนวน 80 ซุ้มซ้อนกัน 3 ชั้น ซึ่งเป็นแนวคิดที่แบ่งงานก่อสร้างขนาดใหญ่ให้เป็นงานย่อยๆ โดยให้ช่างฝีมือทำงานเฉพาะความถนัดของตนสร้างซุ้มประตูซ้ำๆ กันไปเรื่อยๆ จึงสามารถใช้ความชำนาญสร้างได้อย่างรวดเร็ว

  11. ภาพจาก : http://www.learnlangs.com/latin/lessons/1.htm

  12. คาดว่าเป็นครั้งแรกที่มีการคิดค้นคอนกรีต โดยผสมทรายภูเขาไฟกับปูนขาว เนื่องจากต้องการวัสดุในการก่อสร้างที่เบากว่า แต่แข็งกว่าหิน และอิฐ โดยมีแนวคิดมาจากกระเบื้องมุงหลังคาที่ทำจากดินเผาไฟ ดังนั้นอิฐสมัยโรมันจึงไม่ได้เป็นก้อนสี่เหลี่ยมอย่างที่เห็นในปัจจุบันแต่จะแบนเป็นแผ่นค่อนข้างบางแทน
  13. ซุ้มโค้ง 3 ชั้นนั้น ชั้นล่างสุดจะเป็นหินปูน โดยใช้ถึง 200,000 ตันนำมาจากเมืองทริโบรี่ แต่ชั้น 2-3 จะเป็นคอนกรีตและอิฐ ถัดมาด้านในสร้างเป็นวงกลมขนาดเล็กลงจำนวน 6 ชั้น เพื่อเป็นส่วนของที่นั่งดูด้านใน โดยมีการใช้หินภูเขาไฟเทลงไประหว่างวงเป็นฐานในการก่อสร้างที่นั่ง
  14. ที่นั่งจะถูกแบ่งเป็นเขตสำหรับผู้มีฐานันดรศักดิ์ต่างกัน ดังนี้ 1. ชั้นล่างสุดจะเป็นที่นั่งของจักรพรรดิโดยมีทางเดินตรงมาจากวังโดยเฉพาะ และรอบๆ ถัดออกไปจะเป็นวุฒิสมาชิก (Senators เป็นนักการเมืองสมัยโรมัน) 2. ชั้นนี้จะเป็นที่นั่งของเศรษฐีโดยมักจะเป็นญาติของวุฒิสมาชิกนั่นเอง 3. ที่นั่งของคนทั่วไป 4. ที่นั่งของทาส โดยต้องเดินขึ้นบันไดประมาณ 130 ขั้นเพื่อขึ้นไปยังชั้นที่สูงที่สุด และแทบมองไม่เห็นการแข่งขันเท่าใดนัก

  15. ภาพจาก : Wikipedia

  16. การวางแผนการเดินเข้าออก Colosseum ถือว่าเป็นการจัดการที่ดีมากแม้จะเทียบกับสนามกีฬาขนาดใหญ่ในปัจจุบัน โดยคน 50,000 คนสามารถเดินออกจากสนามได้หมดในเวลาประมาณ 30 นาทีเท่านั้นเอง
  17. การเข้าชมสมัยนั้นต้องใช้ตั๋วซึ่งทำจากดินเผาเป็นแผ่นบางๆ ในการเข้าชม ซึ่งคาดว่าหายากมาก
  18. เปิดประลองปฐมฤกษ์เมื่อปีค.ศ. 80 ซึ่งคาดว่ายังสร้างไม่เสร็จ ภายหลังจึงมีพิธีเปิดใช้หลายๆ ครั้งโดยค่อยๆ เปิดทีใช้ละส่วน สำหรับการประลองนัดเปิดสนามนั้นยิ่งใหญ่มาก โดยมีการจัดการประลอง 100 วันติดต่อกัน
  19. ภายหลังถึงมีการสร้างคูหาใต้ดินของ Colosseum ซึ่งเสมือนเป็นหลังเวทีในการแสดง มีคนเคยบอกว่าถ้าขาดสิ่งนี้ไปคุณค่าของ Colosseum ก็เหมือนจะเหลือเพียงครึ่งเดียว เพราะคูหาใต้ดินจะมีลิฟท์เพื่อส่งให้นักสู้ สัตว์ป่าต่างๆ ขึ้นมา จากจุดต่างๆ ของ Colosseum ซึ่งผู้ชมจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะมีใครหรืออะไร ขึ้นมาที่ไหน เมื่อไร จึงสร้างความตื่นเต้นเร้าใจในการต่อสู้อย่างมาก

  20. ภาพจาก : Wikipedia

  21. สัตว์ที่นำมาใช้ในการต่อสู้ จะมีทั้งเสือดำ สิงโต ช้าง ฮิปโปโปเตมัส นกกระจอกเทศ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเป็นเสมือนการแสดงอำนาจของโรมันที่สามารถจัดหาสิ่งที่หายากจากทุกๆ ที่มาเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับผู้เข้าชม โดย Gladiator จะเป็นเสมือนดาราที่ชื่นชอบของประชาชน แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นทาสที่ถูกบังคับให้ต่อสู้จนตายก็ตาม
  22. Colosseum ถือเป็นตัวแทนของความทะเยอทะยาน และความฉลาดของชาวโรมัน

ที่มาของข้อมูล : Thai PBS รายการท่องโลกกว้าง เวลา 18:00-19:00 น. ของวันอังคารที่ 21 กรกฎาคม 2552

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น